สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า ชาวเยอรมันผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งประมาณ 60.4 ล้านคน มีกำหนดออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งแห่งชาติ ที่เป็นการเลือกสมาชิกสภาแห่งชาติชุดใหม่ทั้ง 598 ที่นั่ง โดยหน่วยลงคะแนนเปิดระหว่างเวลา 08.00-18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ ( 13.00-23.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) แต่มีการคาดการณ์ว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อยน่าจะใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าผ่านระบบไปรษณีย์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่ "ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ" สำหรับเยอรมนี และจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อไปทั่วทั้งภูมิภาคด้วย เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ในฐานะสมาชิกอันดับ 1 เพื่อลงชิงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ในนามตัวแทนพรรคประชาธิปไตยคริสเตียนแห่งเยอรมนี ( ซีดียู ) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน ( ซีเอสยู ) หมายความว่า เยอรมนีจะมีผู้นำรัฐบาล "หน้าใหม่" เป็นครั้งแรก ในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2548
แม้ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันลงคะแนน ปรากฏว่า พรรคสังคมประชาธิปไตย ( เอสพีดี ) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 2 มีคะแนนนิยมนำเหนือพรรคซีดียู/ซีเอสยู ที่ระหว่าง 25% ต่อ 22% อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่า "ยังสูสีคู่คี่มาก" ระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ เนื่องจากประมาณ 40% ของผู้มีสิทธิลงคะแนน "ยังตัดสินใจไม่ได้" ว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด
แผ่นป้ายหาเสียงของ 3 ผู้สมัครตัวเก็ง ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี
สำหรับตัวแทนชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเอสพีดี คือ นายโอลาฟ โชลซ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง คนปัจจุบัน เจ้าของฉายา "บาซูก้าแมน" จากการเสนออัดฉีดและเป็นผู้ดูแลงบประมาณ 750,000 ล้านยูโร ( ราว 29.3 ล้านล้านบาท ) เพื่อฟื้นฟูเยอรมนีจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ด้านพรรคซีดียู/ซีเอสยู ส่งนายอาร์มิน ลาเชต ซึ่งคะแนนนิยมร่วงลงไปในทางระยะหลัง จากกรณีอื้อฉาวหลายเรื่อง
ส่วนผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่อาจเป็น "ตัวแปรสำคัญ" ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ คือ นางอันนาเลนา แบร์บ็อก ผู้นำร่วมของพรรคกรีน ซึ่งทำผลงานได้ดี ตลอดการประชันวิสัยทัศน์ทางโทรทัศน์ทุกครั้งที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AP