ศึกฟุตบอลแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2023 ที่ประเทศไอวอรีโคสต์ เมื่อวันอังคารที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C แคเมอรูน ซึ่งมี 1 แต้มจาก 2 เกมแรก ดวลกับ แกมเบีย ที่แพ้รวดยังไม่มีคะแนน โดยทั้งคู่ต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นเข้ารอบ ซึ่งเกมในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเปิดเกมสู้กันสนุก แต่ยังไใม่มีประตูเกิดขึ้น เสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง “หมอผี” ซึ่งดร็อป อ็องเดร โอนานา มือกาวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นตัวสำรองนั้น ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 56 จาก คาร์ล โตโก เอกัมบี แต่ แกมเบีย เร่งเครื่อง ยิงคืน 2 ลูกรวดจาก แอบลี ยัลโลว์ นาทีที่ 72 และ เอบริมา คอลลีย์ นาทีที่ 85 แซงขึ้นนำ 2-1
อย่างไรก็ตาม แคเมอรูน มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 87 จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ เจมส์ โกเมซ กองหลัง แกมเบีย ก่อนที่สุดท้าย พวกเขาจะมาได้ประตูแซงนำ 3-2 ในนาทีที่ 90+1 จากการโหม่งของ คริสโตเฟอร์ วูห์ และกลายเป็นประตูชัยให้ แคเมอรูน เฉือนชนะ 3-2
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เซเนกัล ชนะ กินี 2-0 ส่งผลให้กลุ่มนี้ เซเนกัล แชมป์เก่า เก็บ 9 คะแนนเต็ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แคเมอรูน มี 4 แต้ม จบเป็นรองแชมป์กลุ่ม ตามเข้ารอบได้สำเร็จ ส่วน กินี มี 4 แต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเป็นรอง จบเป็นอันดับ 3 แต่การันตีเข้ารอบในฐานะหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดแน่นอนแล้ว ส่วน แกมเบีย แพ้รวดไม่มีคะแนน ตกรอบเป็นบ๊วยของกลุ่ม
ส่วนผลในกลุ่ม D แองโกลา ชนะ บูร์กินา ฟาโซ 2-0 และ มอริทาเนีย ชนะ แอลจีเรีย 1-0 ส่งผลให้กลุ่มนี้ แองโกลา มี 7 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม บูร์กินา ฟาโซ 4 แต้ม เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม มอริทาเนีย 3 คะแนน ผ่านเข้ารอบเป็นหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดแน่นอนแล้ว ส่วน แอลจีเรีย มีแค่ 2 คะแนน ตกรอบเป็นบ๊วยของกลุ่ม
เครดิตภาพ : AFP