ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ปัจจุบัน ภูลมโล ซึ่งเป็นหุบเขาในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ เลย ซึ่งที่ยอดภูลมโลจะสามารถมองเห็นได้ทั้ง 3 จังหวัด และมีสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ ภูลมโล ได้แก่ จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (หรือซากุระเมืองไทย) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นเต็มทั่วหุบเขา บนพื้นที่มากกว่า 1,200 ไร่ ปัจจุบันได้เริ่มออกดอกบานสะพรั่งแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมเป็นจำนวนมาก ในปีนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานประมาณกลางเดือน ม.ค. เป็นต้นไป (ดอกจะบานเต็มที่ประมาณ 1 สัปดาห์) นอกจากนี้ยังมีต้นเมเปิล ซึ่งใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย

แขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 2 (วังทอง) ได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้เดินทางไปท่องเที่ยว โดยได้ดูแลเส้นทางให้พร้อมใช้งาน ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำต่าง ๆ และปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมให้บริการแนะนำเส้นทางแก่นักท่องเที่ยวด้วย

สำหรับเส้นทางที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ภูลมโลนั้น สามารถใช้เส้นทางได้ดังนี้ 1.จาก จ.พิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านแยง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ไป อ.นครไทย ก่อนถึง อ.นครไทย ให้เลี้ยวขวาไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางจนถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 125 กิโลเมตร (กม.) จอดรถที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและที่อุทยานมีรถบริการสำหรับการเข้าชม ระยะทางเข้าไปชมหุบเขาดอกนางพญาเสือโคร่งประมาณ 14 กม.

2.จาก จ.เพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้า อ.หล่มสัก จากนั้นเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมืองก่อนถึงสี่แยกหล่มสัก จะเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 จากนั้นถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2372 ขับตรงไปจนถึงทางแยกซ้ายมือขึ้นภูทับเบิกเป็นทางหลวงหมายเลข 2331 เป็นทางลาดชันและทางโค้งราว 18 กม. จนถึงด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นเดินทางต่อไป ยังบ้านร่องกล้า ที่อยู่ภายในอุทยานฯ อีก 21 กม. รวมระยะทางทั้งสิ้น 96 กม.

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนและป้ายแนะนำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และใส่ใจสิ่งแวดล้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)