เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 67 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานแถลงข่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงฯ ภายในปี 2567 ที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีหน่วยงานภายในสังกัด ร่วมแถลง อาทิ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นต้น
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า ในปี 2567 นโยบายสำคัญ คือ “พลิกโฉมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย” โดยจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่ากีฬาไทย จาก 0.58 เปอร์เซ็นต์ ในอุตสาหกรรมกีฬาโลก ที่มีมูลค่า 45.58 ล้านล้านบาท ให้เป็น 1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 455,800 ล้านบาท ให้ได้
ส่วนของนโยบายทางด้านการกีฬานั้น จะมีการพัฒนาหลายมิติ ทั้งด้านสังคมและเยาวชน รวมถึงการผลักดันให้ประชาชนออกกำลังกายกันมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงไม่มีการเจ็บป่วย และให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หรือต่อยอดไปเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคต
“ปีนี้จะมีอีเวนต์กีฬาสำคัญๆ ทั้งการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ รวมถึงการเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งจะจัดอย่างแน่นอนในเดือน พ.ย. นี้ และต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ด้วย โดยจะเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงกีฬาอาชีพ” รมต.ปุ๋ง กล่าว
ขณะที่ ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า ไฮไลต์สำคัญตอนนี้คือการควอลิฟายเข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการแยกกีฬาที่เป็นความหวังออกมา มีนักกีฬาคว้าตั๋วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางกีฬาก็เป็นกีฬาใหม่ ซึ่งหลังจากได้ตั๋วมาแล้วจะสนับสนุนให้มีการเก็บตัวต่อเนื่อง บางชนิดกีฬาจะให้ไปเก็บตัวต่างประเทศ มีการดูศูนย์ฝึกในฝรั่งเศสและยุโรป เพื่อให้ไปปรับสภาพร่างกายและคุ้นเคยกับบรรยากาศต่างๆ
ส่วนของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง “เนชั่นส์ลีก 2024” รอบชิงชนะเลิศ นั้น “บิ๊กก้อง” กล่าวว่า นางสาวสุดาวรรณ มีนโยบายชัดเจนว่าต้องการให้ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลก รัฐบาลมองว่าการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น จะเป็นประโยชน์ทั้งการพัฒนาและกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวด้วย จึงได้ให้ทาง กกท. ประสานกับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ในส่วนของงบประมาณนั้นรัฐยินดีสนับสนุน แต่น่าจะต้องมีการคุยรายละเอียดต่างๆ ซึ่งมีประเทศอื่นๆ ด้วย ที่ต้องการเป็นเจ้าภาพเช่นกัน แต่รัฐบาลยินดีสนับสนุนแน่นอน
ขณะที่ การเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ นั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของงบประมาณก็อยู่ในช่วงของการของบก้อนสุดท้ายจากรัฐบาลอยู่ แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ล่าสุดมีการพบปะกับผู้บริหารของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ในการทำงานร่วมกัน เป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถดำเนินการทันเวลาแน่นอน
“ส่วนซีเกมส์ได้มีการประชุมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน การเตรียมพร้อมจะสอดคล้องกับเอเชียนอินดอร์ฯ เพราะส่วนใหญ่ใช้สนามเดียวกัน มีเพิ่มขึ้นมาแค่ จ.สงขลา เท่านั้น แต่ที่สงขลาก็มีสนาม มีพื้นที่พร้อมรองรับการแข่งขันอยู่แล้ว” ผู้ว่าการ กกท. กล่าวปิดท้าย.