ที่ ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วย  นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. และคณะผู้บริหาร ร่วมหารือการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมี นายแพทย์สาธารณสุขรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ผ่าน Video Conference ระบบ zoom


สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ และมีแนวโน้มที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีปัจจัยเสี่ยง ศอ.บต. จึงได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการหารือเพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งแบบรายบุคคลและการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการดำเนินการภายใต้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ได้ เผยแพร่ประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้มีการจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพและเพียงพอให้ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 เป็นอย่างน้อย และให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือในการจัดหา สั่ง หรือนำเข้า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน และข้อ 5 ได้มีการระบุว่า ในปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรยังมีจำนวนจำกัด หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ให้จัดหาจากหน่วยงานตามข้อ 3 และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักเกณฑ์หรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือนายกรัฐมนตรีกำหนด ศอ.บต. จึงได้ร่วมกันหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนมีความเห็นร่วมกันในการพร้อมสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วที่สุดและยินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่