การแข่งขันฟุตบอล “เอเชียนคัพ 2023” ที่จะจัดที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12 ม.ค.-10 ก.พ. 67 จะใช้เทคโนโลยีอีกขั้น มาช่วยในการจับล้ำหน้า

ระบบดังกล่าว เรียกว่า “Semi-Automated Offside Technology” หรือ ระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ ซึ่ง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) แถลงการณ์ยืนยันว่าจะนำมาใช้ใน เอเอฟซี เอเชียนคัพ นับเป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลรายการแรกของโลก ที่นำระบบนี้มาใช้ โดยระบบนี้จะเป็นส่วนช่วยระบบวีเออาร์ (Video Assistant Referee) ที่เอเชียนคัพ หนนี้ จะใช้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่นัดแรก

ทั้งนี้ กล้องพิเศษ 12 ตัว จะจับภาพจากทั่วสนาม เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้เล่น และใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตรวจสอบตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เพื่อแจ้งเตือนไปยังผู้ตัดสินวีเออาร์ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนแจ้งไปยังผู้ตัดสินในสนาม นอกจากนี้จะมีการนำแสดงภาพดังกล่าวบนจอในสนาม เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นการตัดสินที่โปร่งใส

สำหรับระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ ได้รับการอนุมัติจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (ไอเอฟเอบี) ก่อนจะเริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รวมถึงฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบัน

เอเชียนคัพหนนี้ ทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม F โปรแกรมรอบแรก วันที่ 16 ม.ค. 67 พบ คีร์กีซสถาน, วันที่ 21 ม.ค. 67 พบ โอมาน และวันที่ 25 ม.ค. 67 พบ ซาอุดีอาระเบีย