กรณีโซเชียลมีเดียโพสต์รูปดวงไฟสีแดง พร้อมระบุข้อความว่า “สอบถามเพื่อนพรานท่านใดเคยเข้าป่านั่งห้างแล้วเจอแบบนี้บ้างครับ ดวงใหญ่มากนะ เท่ากระด้งสี เหมือนพระอาทิตย์ตอนใกล้ลับฟ้านะ ตอนแรกลอยขึ้นแล้วเขาจะลอยไปเรื่อยๆ ไม่สูงมาก ประมาณยอดไม้ น่าจะได้ขนแขนพองเลยแหละครับ บ้านผมภาคใต้เรียก “ชิน” ภาคอื่นเรียกว่าอะไรครับ” มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา บ้างก็ว่า “แก้วโป่ง”, “ผีกระสือออกหากิน, “ผีโพรง”, “ผีพุ่งใต้” นั้น

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านการเคหะฯ เอื้ออาทรบ้านลิพอน หมู่ 1 ต.ศรีสุนทร สอบถามกับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ว่า เห็นโพสต์หรือเห็นแสงไฟสีแดงในโพสต์หรือไม่ ต่างคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเห็น บางคนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า แสงไฟดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นดวงวิญญาณไร้ญาติ

เมื่อประมาณวันที่ 21 ส.ค. 2565 พบศพชายนิรนามอยู่บนต้นไทรใหญ่ ซึ่งอยู่ข้างกำแพงของหมู่บ้านการเคหะฯ ดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร วิญญาณอาจจะมาขอส่วนบุญ จึงทำให้คนที่โพสต์เห็นดวงวิญญาณดวงนั้น ก็อาจะเป็นไปได้

ชาวบ้านบางคนบอกว่า อาจจะเป็นของศพชายไม่ทราบชื่อไม่มีศีรษะ อยู่ในท่อระบายน้ำ ริมถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก บ้านลิพอน หมู่ 1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงดึกวันที่ 9 ธ.ค. 60 และ ตร. ตรวจสอบและค้นหา พบศีรษะแขวนอยู่กับกิ่งไม้ข้างกำแพงของหมู่บ้านการเคหะฯ บ้านลิพอน และไม่ทราบว่าเป็นศพของผู้ใด อาจจะเป็นดวงวิญญาณมาขอส่วนบุญเช่นกัน แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่ล่องลอยให้ผู้พบเห็นแล้วนำมาโพสต์หรือไม่

ลุงมนู วิเศษสิงห์ อายุ 70 ปี เล่าว่า ตนไม่ได้เห็นในโพสต์ แต่ตนเคยเห็นของจริง ตนเห็นตั้งแต่ตอนเด็กและหนุ่ม ตอนนี้ก็เจออยู่ ประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา มาอยู่บ้านหลังนี้ เจอเป็นลักษณะดวงไฟกลมๆ แต่แสงไม่เหมือนในโพสต์ ที่เขาให้ตนดูเป็นดวงกลมๆ ไม่มีรัศมีแบบนั้น ไม่มีแสงกระจายเป็นวงกลมมีแสงสว่าง

ถ้าอยู่ในความมืดจะสว่างเป็นแสงสีเขียวเลย ไม่ใช่เหมือนแสงแดดแต่คล้ายแสงดวงจันทร์แต่สว่างจ้ากว่าดวงจันทร์ ถ้าเป็นที่มืดก็ยิ่งสว่างเลย ส่วนมากมาจากทางด้านหลังของเรา ถ้าเห็นด้านหน้าก็เห็นไกลๆ เห็นบริเวณภูเขา หนองน้ำบ้าง เมื่อก่อนบ้านลุงเป็นหนองน้ำ ก็เห็นมันลอย แต่ไม่แน่ใจว่าลอยมาจากไหน แล้วมาตกที่ต้นไทร มาค้างต้นไทรแล้ว ก็ตกวูบลงไป

เมื่อก่อนโบราณเขาเรียกว่า ”ชิน” คือพ่อแม่เล่าให้ฟังว่า ถ้าเห็นดวงไฟแบบนี้ห้ามไปชี้ ห้ามไปทัก ให้มองดูเฉยๆ เพราะว่าถ้าเข้าไปทัก มันจะเข้ากับตัวของเราเอง แล้วจะทำให้เราเจ็บไข้ไม่สบายได้ แล้วหาทางแก้ยาก ถ้าไม่มีหมอมีความรู้ด้านนี้ คนที่เป็นหมอสมัยก่อนเป็นลุงของตน เป็นนายหนังตะลุง ตนเห็นอยู่บนท้องฟ้า เห็นได้ตอนหัวค่ำและตอนหัวรุ่งใกล้ๆ จะสว่าง ประมาณตี 2 ตี 3 ตอนแสงดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ช่วงเมื่อก่อนมันเงียบ มองเห็นได้ มันเคลื่อนที่ไม่มีเสียง ไม่เหมือนเครื่องบิน เห็นแต่ดวงแสงสว่างแล้วผ่านเราไปแค่นั้น

ทิศทางเดินของ “ชิน” ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ครั้งเดียว ต้องมาตั้งทำพิธีขอนุ่งผ้าขาวห่มขาว ขอทำพิธีก่อนหลายๆ ครั้ง ขอจนกระทั่งชินไปลงที่อื่น ไม่ใช่ขออยู่ปีเดียว ต้องขออยู่หลายปี จนกระทั่งตอนนี้เขาตายไปแล้ว คนแถวบ้านพอน ตนเห็นไม่เหมือนกันกับที่เขาโพสต์ แสงมันแตกพร่าไป หรือว่าเป็นจากการถ่ายรูปหรือไม่รู้

แต่ที่ตนเห็นแสงไม่พร่า เป็นวงกลมและมีแสงสว่างแสง ที่ออกจากนั้นเป็นแสงที่สว่างมาก ไม่เหมือนกับพลุไฟแบบนั้น ไม่เหมือนสว่างแบบไฟฉาย มองเห็นวงกลมแล้วเห็นข้างๆ แสงออกมาแบบนั้น ในความเชื่อเรื่องชินที่บอกว่าผีนั้นไม่ใช่ ตนคิดว่าคนละอย่างกัน ถ้าเป็นผีไม่ค่อยกลัว แต่ชินเป็นเส้นทางธรรมชาติของมัน ไม่ใช่ไสยศาสตร์

แต่ไม่รู้ว่าตกมาจากไหน ไม่เหมือนผีพุ่งใต้ คือลอยสูงกว่าต้นไม้ต้นมะพร้าว แล้วไปตกแถวๆ ต้นไม้ตรงที่ตก อย่าไปฉี่อย่าไปอุจจาระบริเวณนั้น จะเตียนโล่งเหมือนคนไปทำไว้ มันน่ากลัวกว่าผี เห็นแล้วขนลุกเลย แต่ตอนนี้ไม่เห็น เพราะแสงจากไฟฟ้า แสงจากธรรมชาติที่เปลี่ยนไป แต่ตนคิดว่าเกิดจากธรรมชาติมากกว่า แต่มันน่ากลัว เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมา