เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่16 ธ.ค.พ.ต.ต.กฤษฎา  ชานนท์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานีได้รับแจ้งเหตุ มีชายนอนเสียชีวิตในห้องน้ำ บ้านพักเลขที่1 หมู่ 2 ซอยบ้านม่วงเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพนายนนท์ รอดพ้นภัย  อายุ 54 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนชักโครกลักษณะลำตัวพาดศีรษะชนผนัง สภาพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงินจากการตรวจสอบภายในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จากการชันสูตรตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเนื่องจากอาการช็อก มาประมาณ 8-10 ชั่วโมง

นางบุญส่ง รอดพ้นภัย อายุ 63 ปี พี่สาวผู้ตาย และผู้พบศพคนแรก ยืนร้องไห้เสียใจเนื่องจากยังทำใจไม่ได้ พร้อมกับบอกดวงวิญญาณน้องชายไม่ต้องห่วงพี่สาวที่ชอบบ่นให้ เพราะอยากให้น้องชายเลิกดื่มเหล้าเท่านั้นมีเพียงแค่เราสองคนที่เข้าใจกัน ขอให้ไปสบาย พร้อมกับ เล่าว่า ผู้ตายเป็นโสดไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ผู้ตายเคยไปทำงานอยู่ต่างประเทศเมื่อกลับมาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามลำพัง ทุกวันผู้ตายไปช่วยงานที่วัดโนนโปร่งราษฎร์บูรณะซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ช่วยล้างถ้วยล้างจาน พระท่านก็เมตตา ให้ข้าวมากินแต่ผู้ตายชอบดื่มเหล้าประจำ

ก่อนพบศพเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 03.00 น. น้องชายโทรหามาแต่ไม่ได้รับสายเพราะหลับ รุ่งเช้าหลานก็ได้นำโทรศัพท์ไปเล่น ทำให้ทราบว่าน้องชายโทรหาพอใกล้เที่ยง หลานชายจะเข้าไปเอาเครื่องมือช่าง ที่บ้านผู้ตายแต่ประตูหน้าล็อกทำให้ไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ จึงได้มาบอกตน ก็เลยออกมาดูพร้อมญาติยืนเคาะประตูเรียกอยู่นาน ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา จึงได้เปิดประตูหลังบ้านก็พบน้องชายนอนตายบนชักโครกแล้ว

“ตนมีลางสังหรณ์ก่อนน้องชายจะเสียชีวิต ตนหยิบจับอะไรสิ่งของก็จะหลุดมือตกหล่นไปหมด แม้แต่เมื่อวานนี้ขณะปาดมะเขือใส่ส้มตำตนก็ทำมีดหลุดมือ ลูกค้าก็ยังแซวตน ทำไมมือไม้อ่อนจังแม่ค้าซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า หากจับอะไรแล้วหล่น เหมือนจะบอกลางที่ไม่ดีเพื่อให้เรารับรู้แต่ไม่คิดว่าน้องชายจะมาเสียชีวิต”

ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายดื่มเหล้าขาวประจำทุกวันจนติดเหล้าอย่างหนัก เมื่อคืนนี้ผู้ตายเดินมาเข้าห้องน้ำ แต่มีการช็อคหมดสติ ไม่มีคนเห็นและช่วยเหลือทำให้เสียชีวิตจึงนำร่างไปนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานีเพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนจะมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป