มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดโรงงานต้อนรับลูกค้าคนพิเศษเข้าเยี่ยมชมสายการผลิตประกอบรถยนต์ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน สุดล้ำสมัย พร้อมชมกระบวนการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” สำหรับรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน และสายการผลิตรถยนต์ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บริหาร นำโดย นายเออิจิ โอกาวะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ
โดยลูกค้าข้าเยี่ยมชมสายการผลิตประกอบรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีสุดไฮเทคและหุ่นยนต์อัจฉริยะสุดล้ำสมัยอย่างใกล้ชิด พร้อมพาชมโรงงานผลิตเครื่องยนต์ใหม่ ไฮเปอร์พาวเวอร์ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ร่วมด้วยการชมสายการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

ด้านสายการผลิตใหม่ของออล-นิวไทรทัน ซึ่งประกอบด้วยสายการผลิตเชื่อมประกอบตัวถังรถยนต์ ที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติสุดไฮเทค เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีสัดส่วนกระบวนการอัตโนมัติถึง 95% จากการใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว เพื่อทำงานในจุดที่มีความเสี่ยงสูงหรือต้องการความแม่นยำสูงเกินความสามารถของมนุษย์ โดยมีกำลังผลิตราว 200,000 คันต่อปี ด้วยมาตรฐานระดับสูงเทียบเท่าโรงงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น 

รวมทั้งเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องยนต์ เพื่อสัมผัสกระบวนการผลิตเครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดสำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน  ให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ก่อนปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย

ปัจจุบัน โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย โรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่ง โรงงานผลิตเครื่องยนต์ 1 แห่ง โรงงานพ่นสีคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ใช้งบลงทุนในการก่อตั้ง 3 พันล้านบาท พร้อมด้วยสนามทดสอบรถยนต์แห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการปฏิบัติงานที่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ของมิตซูบิชิ ที่ได้ผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกจากไทยไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และช่วยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 400,000 ตำแหน่ง นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ เศรษฐกิจ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย.