ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ที่กระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน โดยการประชุมครั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะ (เฟส)ที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กิโลเมตร (กม.) 14 สัญญา วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาในสัญญาที่ยังติดปัญหาอยู่ และไม่สามารถดำเนินงานต่อได้ โดยเฉพาะสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม., สัญญาที่ 4-1ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.2 กม. และสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3กม.

อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมดังกล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างมีความคืบหน้า 28.61% ล่าช้ากว่าแผน 50.01% โดยก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 9 สัญญา เตรียมเข้าพื้นที่ 1สัญญา และรอลงนาม 2 สัญญา ประกอบด้วย 1.สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว เตรียมลงนามสัญญาระหว่าง รฟท. กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ผู้รับจ้าง ภายในเดือน ธ.ค. 66 วงเงิน 10,325 ล้านบาท จากนั้น รฟท. จะออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) เพื่อดำเนินการก่อสร้าง 

ส่วนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยานั้น ขณะนี้ รฟท. ได้รับรายงาน HIA ฉบับสมบูรณ์แล้ว จะเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาภายในเดือน ธ.ค. 66 ก่อนเสนอคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา หากมีคำแนะนำ หรือข้อเสนอให้ปรับแก้ไข รฟท. ก็ต้องดำเนินการปรับแก้ให้แล้วเสร็จ ก่อนเสนอไปยังองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสต่อไป 

และ 2.สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งเป็นช่วงที่มีโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) จากบริเวณวัดเสมียนนารี ถึงสถานีดอนเมือง ระยะทางประมาณ 10 กม.นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินฯ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มว่า รฟท. อาจจะสร้างในส่วนทับซ้อนเองนั้น ปัจจุบันยังไม่ได้สรุปวงเงินงบประมาณที่จะใช้ก่อสร้างว่าต้องเพิ่มขึ้นเท่าใด และยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า รฟท. จะเป็นผู้ดำเนินการหรือไม่ ต้องรอเจรจาเรื่องการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฯ ให้แล้วเสร็จก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการรถไฟไฮสปีดไทย-จีน เฟสที่ 1 จะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการประชาชนได้ในปี 71 

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า อีก 1 สัญญาที่ยังมีปัญหาอยู่ ได้แก่ สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. วงเงินประมาณ 7,750 ล้านบาท ที่แม้จะลงนามสัญญาแล้ว แต่มีบางช่วงโดยเฉพาะบริเวณโคกกรวด-บ้านใหม่ ระยะทางประมาณ 7.3 กม. ยังติดปัญหาไม่สามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากยังมีการร้องเรียนของชาวบ้าน โดยอยากให้เปลี่ยนจากการสร้างทางระดับดิน เป็นทางยกระดับแทน ซึ่งเบื้องต้นมีแนวโน้มว่า รฟท. จะปรับเป็นทางยกระดับ โดยจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 4 พันล้านบาท 

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เดือน ม.ค. 67 รฟท. จะเสนอขอความเห็นชอบในการเพิ่มงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับบริเวณโคกกรวด-บ้านใหม่ กว่า 4 พันล้านบาท ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เบื้องต้นงบประมาณที่เพิ่มขึ้นยังอยู่ในกรอบวงเงินโครงการ โดยจะนำเงินที่เหลือจากการประมูลมาใช้ในการดำเนินการก่อสร้างต่อไป  

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างแต่ละสัญญามีดังนี้ สัญญาที่ 1-1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. งานก่อสร้างแล้วเสร็จ 100%, สัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. เตรียมเข้าพื้นที่ก่อสร้าง, สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็ก และลำตะคอง ระยะทาง 12.2 กม. คืบหน้า 46.35%, สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 26.1 กม. คืบหน้า 38.48%,  

สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 69.11 กม. คืบหน้า 61.23%, สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.3 กม. คืบหน้า 5.47%, สัญญาที่ 4-2ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. คืบหน้า 0.25%, สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. คืบหน้า 23.04%, สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย คืบหน้า 1.46%, สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.6 กม. คืบหน้า 0.40% และสัญญาที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.9 กม. คืบหน้า 48.39%.