นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.64 รฟท. จะเปิดเดินขบวนรถเพิ่ม 18 ขบวน เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชน ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็วในเส้นทางสายใต้ สายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนเวลา สถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในบางขบวนใหม่ และขบวนรถจะไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัดด้วย
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการเพิ่มทั้ง 18 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 4 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 7/8 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ, สายใต้ 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 43/40 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ, ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ และขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ – นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ 6 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ, ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23/24 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ และขบวนรถด่วนดีเซลรางที่ 71/72 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ สำหรับขบวนรถที่ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง/ปลายทาง มี 2 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – ชุมทางทุ่งสง – กรุงเทพ ปรับเป็น กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ อย่างไรก็ตามปัจจุบัน รฟท. ได้ทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับการผ่อนคลายมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 ได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์เพิ่มเติม 8 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 2 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ขบวน สายใต้ 2 ขบวน และเมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 เปิดให้บริการเดินขบวนรถเชิงสังคมเพิ่มเติม 20 ขบวน ประกอบด้วย สายเหนือ 4 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ขบวน สายใต้ 4 ขบวน สายตะวันออก 4 ขบวน สายแม่กลอง 4 ขบวน พร้อมทั้งยังเปิดให้บริการขบวนรถท้องถิ่นแก่ประชาชนทุกพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ตามปกติอีกด้วย
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในการให้บริการเดินรถ รฟท. ยังคงคำนึงถึงความสะดวกในการให้บริการประชาชน ควบคู่กับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยได้กำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชันไทยชนะก่อนและหลังใช้บริการ หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ ให้กรอกข้อมูลการเดินทางแทน พร้อมกับต้องกรอกข้อมูลเดินทางข้ามจังหวัด-ข้ามเขตผ่านเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th/ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด.