เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  เป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงนิทรรศการ “รัฐสภาไทยสู่รัฐสภาสีเขียว” โดยกล่าวเปิดงาน ตอนหนี่ง ว่า ระดับความรุนแรงทางด้านมลพิษของประเทศไทยติดอันดับโลก  ทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านบวก และด้านลบ สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาทางด้านมลพิษไม่ได้เกิดจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ หน่วยงานราชการจึงเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบาย รวมทั้งเริ่มต้นขับเคลื่อนในเรื่องต่าง ๆ สำหรับรัฐสภานั้น เชื่อว่าต้องใช้เวลาในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับทั้งสมาชิก และเจ้าหน้าที่ทุกคนรับรู้นโยบายและสามารถนำไปปฏิบัติในวงกว้าง แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่การทำความเข้าใจและพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมย่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด

นายชวน กล่าวต่อว่า  การดำเนินงานดังกล่าวนี้ เหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากมีการทำอย่างต่อเนื่องด้วยความร่วมมือทั้งจากบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  ส.ส.กรรมาธิการ ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่เข้ามาในบริเวณอาคารรัฐสภา ก็จะสามารถมุ่งสู่สำนักงานสีเขียวบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ใช้อาคารรัฐสภาที่จะมีสภาพแวดล้อมที่ดี เอื้อต่อการปฏิบัติงาน และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมา การสร้างความเข้าใจความร่วมมือและความตระหนักถึงปัญหาร่วมกันของทุกภาคส่วนจะทำให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก้าวสู่การเป็นสำนักงานสีเขียว หรือ Green Office และเป็นรัฐสภาสีเขียว หรือ Green Parliament ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า สำหรับงานแสดงนิทรรศการ “รัฐสภาไทยสู่รัฐสภาสีเขียว” สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการขับเคลื่อนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสู่การเป็นสำนักงานสีเขียวหรือ Green Office ได้เห็นความสำคัญของขยายผลการรับรู้ให้ทั่วถึงทั้งองค์กร และจัดให้มีการรณรงค์ เผยแพร่แนวคิดสำนักงานสีเขียว หรือ Green Office เพื่อขับเคลื่อนหน่วยงานในการเป็นสำนักสีเขียว ภายใต้การดำเนินการรูปแบบต่าง ๆ การพัฒนาระบบบริการโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยัด คุ้มค่าเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน การรณรงค์เพื่อคัดแยกขยะแต่ละประเภท รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายระดับองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสู่การเป็นสำนักงานสีเขียว หรือ Green Office ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ต่อไป.