“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ประเดิมสนามในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่ม C นัดแรก พบ “มังกร” ทีมชาติจีน ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 16 พ.ย. 66 เวลา 19.30 น.​ ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และยูทูบ Changsuek Official เกมนี้นับว่าสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้ารอบ เพราะในกลุ่มนี้ คาดว่า ทีมไทย กับ จีน จะแย่งอันดับ 2 เพื่อเข้ารอบตามหลัง “เต็ง 1” เกาหลีใต้

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำลูกทีมลงฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ใช้เวลาซ้อมราวๆ 1 ชั่วโมง เพื่อทบทวนแทคติกครั้งสุดท้ายก่อนเจอกับจีน

มาโน กล่าวว่า การเตรียมทีมที่ผ่านมา เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพและความมุ่งมั่น ตอนนี้ผู้เล่นทุกคนรวมตัวกันครบแล้ว และมีการฝึกซ้อมที่ดีในทุกๆ วัน เรื่องสภาพร่างกายของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่เพิ่งหายเจ็บ ตอนนี้สภาพร่างกายดีขึ้นมา ซ้อมร่วมกับทีมครบทุกเซสชั่น แต่ต้องระวังไม่เร่งใช้งาน คงยังไม่ได้ออกสตาร์ตตัวจริง สำหรับทีมจีนนั้น จากที่ได้ศึกษาฟอร์ม เป็นทีมที่มีการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ยอดเยี่ยม 3 ตัวรุกแดนบนเป็นจุดแข็ง โดยเฉพาะ อู๋ เล่ย อดีตกองหน้าของเอสปันญอล ในลาลีกา สเปน เป็นตัวอันตราย ต้องระวังเป็นพิเศษ นัดนี้สำคัญมากต่อการเข้ารอบ ความกดดันจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกคนในทีมและแฟนบอลจะสู้ไปพร้อมกันเพื่อคว้าชัยชนะ

สำหรับ 11 ผู้เล่นของทีมชาติไทย อันดับ 112 ของโลก คาดว่าจะลงสนาม ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, แบ๊กขวา นิติพงษ์​ เสลานนท์, แบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน (กัปตัน), เซ็นเตอร์ พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, กองกลางตัวรับ สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, กองกลางตัวรุกจากขวาไปซ้าย สุภโชค สารชาติ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, บดินทร์ ผาลา และกองหน้า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

ขณะที่ทีมชาติจีน อันดับ 79 ของโลก นำโดย อเล็กซานดาร์ ยานโควิช กุนซือชาวเซอร์เบีย จะใช้ระบบ 3-4-3 นำทีมโดย อู๋ เล่ย กองหน้าตัวเก๋า ที่เคยบุกยิงไทย 2 ลูก เมื่อเกมอุ่นเครื่องปี 2018 ที่ชนะ 2-0, เหว่ย ซื่อห่าว ดาวยิงวัย 28 ปี จากอู่ฮั่น ทรีทาวน์, หลี่ เค่อ อดีตเยาวชนอาร์เซนอล, อู๋ เชากง หนึ่งเดียวในทีม ที่เล่นต่างชาติ อยู่กับ เกนเคลอร์เบอร์ลิจี ลีกระดับ 2 ในตุรกี

China players pose for a group photo before the start of the friendly football match between New Zealand and China at Sky Stadium in Wellington on March 26, 2023. (Photo by Marty MELVILLE / AFP)

สถิติการพบกันระหว่างทีมชาติไทยและจีนนั้น เจอทั้งหมด 26 ครั้ง ไทยชนะ 6 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และจีนชนะ 18 ครั้ง ไทยยิง 24 ประตู เสีย 54 ประตู เจอกัน 2 ครั้งล่าสุด ปี 2019 เอเชียนคัพ ที่ยูเออี จีน ชนะ 2-1 และครั้งสุดท้ายเกมอุ่นเครื่อง “ไชนา คัพ” ไทยบุกชนะ 1-0 จาก “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่ถ้านับเฉพาะฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งสุดท้ายเจอกันต้องย้อนไปปี 1989 (คัดบอลโลก 1990) จีนบุกชนะไทย 3-0 และกลับไปชนะในบ้าน 2-0

นัดนี้ ช้างศึกชุดใหญ่ จะได้เล่นในราชมังคลากีฬาสถาน ในเกมอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกใน 5 ปี บัตรยังมีจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ราคา 165-750 บาท

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เตะเวลาไทย 18.00 น. “โสมขาว” เกาหลีใต้ เต็ง 1 ของกลุ่ม เปิดบ้านพบ สิงคโปร์.