จากกรณีที่นักร้องดัง ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ หรือ ว่าน AF ขับรถเก๋งวอลโว่ รุ่นเอส 90 สีดำ พุ่งชนรถเก็บขยะของเทศบาลนครนนทบุรี บริเวณปากซอยกรุงเทพ-นนท์ 13 ถนนกรุงเทพ-นนท์ ขาออกมุ่งหน้าแยกติวานนท์ ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี ทำให้พนักงานเก็บขยะได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 7 พ.ย. นั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นักร้องดัง “ว่าน ธนกฤต” พร้อม น.ส.พรรษ์สุดา ไก่แก้ว ผอ.ส่วนบริการอนามัยฯ เทศบาลนครนนทบุรี และนายชูศักดิ์ ฟักเขียว พร้อมกับแม่ของนายวิรัตน์ เชยพิมพ์ พนักงานเก็บขยะเทศบาลนครนนทบุรี 2 ราย ได้เข้ามาพูดคุยเจรจาตกลงค่าเสียหายต่อหน้า พ.ต.อ.จตุรงค์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.ชิตพงษ์ ช่างประดิษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าของคดี โดยมีตัวแทนจากประกันภัยรถยนต์ พร้อมญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย โดยได้เปิดห้องประชุมเพื่อเจรจา ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งนักร้องดัง “ว่าน ธนกฤต” ยินยอมรับข้อเสนอ และรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกอย่าง โดยขอร้องสื่อมวลชน ให้ออกมารอหน้าห้องประชุมก่อน โดยใช้เวลา 40 นาที ในการหารือ

ต่อมาหลังการเจรจาสิ้นสุดลงทางด้าน พ.ต.ต.ชิตพงษ์ เจ้าของคดี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในด้านคดีความเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่สามารถยอมความกันได้ ในส่วนของคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนนักร้องดัง “ว่าน ธนกฤต” คู่กรณี ได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วพบว่า รถยนต์มีประกันภัยชั้น 1 ของบริษัทแอกซ่า ทาง “ว่าน ธนกฤต” ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกอย่าง ส่วนตัวเลขในการชดใช้ยังไม่สามารถสรุปออกมาได้ เนื่องจากมีความเสียหายทั้งในส่วนของรถเก็บขยะเทศบาลนครนนทบุรี และตัวคนเจ็บทั้ง 2 ราย ที่ยังจะต้องพักรักษาตัวอีกนาน ต้องรอนำใบเสร็จในการรักษาพยาบาลมาเบิกจากทางประกันภัย ส่วนค่าทำขวัญ หรือค่าเสียเวลาในการทำงานที่ต้องหยุดงาน ก็ยินดีที่จะชดใช้ให้กับคนเจ็บทั้ง 2 ราย

ว่าน ธนกฤต กล่าวว่า วันนี้เข้ามาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และเชิญผู้เสียหาย รวมถึงคุณแม่ของผู้เสียหายเข้ามาจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาล การสูญเสียรายได้ต่างๆ ผลการพูดคุยคาดว่าผ่านไปได้ด้วยดี ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง ตั้งใจดูแลอย่างเต็มที่ รวมถึงการเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามลำดับขั้นตอนทุกอย่าง ในวันนี้ก็มีทั้งทีมประกันภัยเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย ตอนนี้ควรโฟกัสผู้บาดเจ็บให้หายเป็นปกติอย่างดีที่สุดก่อน หากต้องมีการพักการทำงาน อาจจะต้องดูในส่วนของการเสียรายได้จากการทำงาน ตรงนี้คงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ คงต้องดูกันต่อไป สำหรับสภาพจิตใจตอนนี้ หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น รวมถึงจะไม่ประมาทแบบนี้ และคงจะต้องใช้คนขับรถดีที่สุด.