เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ที่โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์ พอยต์ เพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือรองต่อ อดีต ตร.สันติบาล แถลงกรณีข้อพิพาทการปะทะคารม รวมถึงการดำเนินคดีทางอาญากับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา มีบุคคลปริศนา เป็นอดีตตำรวจ ยศ พล.ต.ท. ในการสนทนา ฝ่ายนั้นระบุว่านายชูวิทย์ ให้โทรฯ หาตน ขอให้ตนกับชูวิทย์ เลิกแล้วต่อกันได้หรือไม่ ซึ่งมองว่า ตอนนายชูวิทย์ พูดถึงตน ประกาศให้รู้ทั่วประเทศ แต่ตอนขอจบ มาพูดกันแค่ 2 คนหรือ? ซึ่งไม่ทราบว่าขณะอีกฝ่ายพูดอยู่นั้น ได้เปิดโทรศัพท์ฟังด้วยกันกับนายชูวิทย์หรือไม่

จากนี้ไปมันต้องอยู่ยาก! ‘ชูวิทย์’ เกาะติด ‘สันธนะ’ แฉโผล่อาบอบนวด เคลียร์ใครบางคน

นายสันธนะ ตั้งข้อสงสัยว่า การที่โทรฯ มาเคลียร์ เนื่องจากมีคดีที่นายชูวิทย์ ถูกอัยการนำตัวไปฟ้องที่ศาล ซึ่งหากไม่ไปจะถูกออกหมายจับ และจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ซึ่งเป็นคดีที่นายชูวิทย์พยายามปิดสื่อ ทั้งนี้ตนกับนายชูวิทย์ ได้มีการคุยกันวันนั้นแล้ว ซึ่งตนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่คิดว่าตัวนายชูวิทย์ ทราบดีอยู่แล้ว

นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ใครจะมารู้จักชูวิทย์ดีเท่ากับตน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนมีความสัมพันธ์รู้จักกันดีมาตลอด ตั้งแต่นายชูวิทย์ เปิดสถานบริการ ตนรู้เรื่องนายชูวิทย์ทั้งหมด ที่พูดไม่ใช่การกล่าวหา แต่ที่ผ่านมานายชูวิทย์ ให้ข่าวว่าไม่รู้จักตน และพูดถึงไม่ดีต่อหน้าสื่อมาตลอด ซึ่งก็นิ่งทนฟังมาตลอด ไม่ได้โต้ตอบอะไร และในเหตุการณ์ช่วง 1 ปีที่เกิดขึ้น นายชูวิทย์ ทำอะไรโดยไม่คิด แต่วันนี้จะมาขอ จะเอาอะไร

“เรื่องของนายชูวิทย์กับผม หากบอกว่ายอม ก็เหมือนหลอกสื่อ แต่หากจะให้พูดว่ายอม ผมขอยอมไม่หล่อ ไม่เท่ ไม่อโหสิกรรม ดีกว่า วันนี้นายชูวิทย์จะใกล้ตายหรือไม่ ไม่ทราบ เห็นนั่งวีลแชร์ทำหน้าจ๋อย แต่ส่วนตัวยังไม่เชื่อ คิดว่าเป็นการแสดงเท่านั้น ดังนั้นหากถามถึงวันนี้และหลังจากนี้ ไม่ต้องถามอีกแล้ว บอกได้เพียงว่า ธรรมชาติกำลังจะลงโทษเขา หากถามมากกว่านั้นก็จะบอกว่า อยากให้สิ่งที่ผิดธรรมชาติลงโทษเขา ผมไม่มีอะไรจะพูดถึงนายชูวิทย์อีกแล้ว ถ้าจะต้องการคำอวยพร ก็อวยพรได้ ขอให้ชูวิทย์ลุกขึ้นจากเก้าอี้วีลแชร์ให้เร็วที่สุด แล้วกลับมาปะทะกันอีก คอยอยู่” นายสันธนะ กล่าวก่อนทิ้งท้ายว่า “ผมไม่ได้บอกว่าผมเป็นคนดี แต่ผมไม่ได้เลวเท่าเขา”