เมื่อวันที่ 4 พ.ย. รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ผ่านโพล “เดลินิวส์xมติชน : รัฐบาลเศรษฐา ควรแก้ปัญหาอะไร?” ซึ่งพบว่า 67.59% ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง และ 32.41% ต้องการให้เร่งแก้ไขปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ว่า ผลที่ออกมาจากกลุ่มตัวอย่างที่เยอะ กว้างขวาง สิ่งที่สะท้อนออกมาจะเห็นว่า ปัญหาเศษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าเพราะมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะการลดค่าน้ำค่าไฟ แก้ปัญหาหนี้สิน ตามต่อด้วยนโยบายรัฐบาล เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจวันนี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนเยอะ ซึ่งก็เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่สอดรับกันพอดี

ปัญหาปากท้องมาแรง! ชาวบ้านอยากให้รัฐบาลเร่งแก้มากกว่าปัญหาการเมือง

ส่วนเรื่องรองลงมาที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ การแก้ปัญหาทางการเมือง ปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยอันดับหนึ่งเลยคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นนโยบายเร่งด่วนอันหนึ่ง และน่าสนใจว่า ประชาชนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญทางการเมือง ก่อนจะไปสู่เรื่องอื่น อย่างเช่น เรื่องการปฏิรูปกองทัพ เรื่องรัฐสวัสดิการ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังแก้กติกาใหญ่อย่างรัฐธรรมนูญ

อีกประการหนึ่งที่น่าสนใจ คือกลุ่มตัวอย่างที่ตอบคำถาม และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่น้อยกว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตรงนี้คงสอดรับกับกลุ่มประชากรที่ส่วนใหญ่จะเป็นเจน X เจน Y อายุประมาณ 40-50 ปี ขณะที่เจน Z อายุประมาณ 20 กว่า ๆ คนกลุ่มนี้เป็นสัดส่วนที่น้อยในการสำรวจครั้งนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า มุมมองเรื่องการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างแบบที่คนรุ่นใหม่มักจะพูดถึง ไม่ได้กลายมาเป็นประเด็นหลัก ขณะเดียวกัน เรื่องของรายได้ของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาท ซึ่งกลุ่มนี้แน่นอนว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ และผลกระทบจากราคาสาธารณูปโภคที่สูง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ต่างๆ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจในชีวิตประจำวันของเขา ผลการสำรวจที่ออกมาจึงเห็นได้ว่า เน้นไปที่เรื่องเศษฐกิจมากกว่า

เมื่อถามว่าความต้องการของประชาชนที่สะท้อนผ่านโพล “เดลินิวส์xมติชน” กับการทำงานของรัฐบาล นับตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารงานมีความสอดรับกัน หรือมีรูปธรรมอะไรบ้าง รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า อย่างค่าน้ำ ค่าไฟ ก็มีมติ ครม. ว่าให้ลดค่าสาธารณูปโภคเหล่านี้อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลก็กำลังทำอยู่ ส่วนตัวคิดว่าตอบโจทย์อยู่พอสมควร ส่วนเรื่องทางการเมือง การแก้รัฐธรรมนูญก็จะเห็นว่า มีการตั้งคณะทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขับเคลื่อนกันอยู่ ดังนั้นตนเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลทำมาในช่วง 2 เดือน ก็ตอบโจทย์อยู่พอสมควร แต่แน่นอน เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้องมีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม การสร้างโอกาส ปัญหาการกระจายรายได้ การผูกขาด เป็นต้น ส่วนการลดค่าน้ำ ค่าไฟ นั้น เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น

“คิดว่า ในแง่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า สามารถตอบสนองได้ในระดับหนึ่ง เช่น ลดค่าน้ำ ค่าไฟ การแก้ราคาสินค้า ควบคุมราคาสินค้าบางประเภท เช่น น้ำตาล รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจากการท่องเที่ยว กระทั่งดิจิทัลวอลเล็ตที่สะดุดอยู่นั้น ต้องเร่งขับเคลื่อน เพราะเป็นความหวังของคนส่วนหนึ่ง เพราะจากผลสำรวจที่ออกมา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆ ก็จริง แต่ยังอยู่ในสิ่งที่ประชาชนอยากได้ อยากเห็น ดังนั้นสิ่งที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ ทั้งในเชิงกฎหมาย เชิงโครงสร้างการบริหารเหล่านี้ ก็ต้องดำเนินการปลดล็อก เพื่อขับเคลื่อนนโยบายครบถ้วนตามที่ได้รับปากประชาชนเอาไว้” รศ.ดร.ยุทธพร กล่าว