สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (เอ็มเอ็นดีเอเอ) หรืออดีตพรรคประชาธิปไตยโกก้าง กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติท่าอ่าง (ทีเอ็นแอลเอ) และกองทัพอาระกัน (เอเอ) ซึ่งร่วมกันเป็นพันธมิตรเฉพาะกิจ ต่อสู้กับกองทัพเมียนมา ในรัฐฉาน ที่อยู่ทางเหนือและมีพรมแดนบางส่วนติดกับจีน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ประกาศการรุกคืบฐานที่มั่นของกองทัพเมียนมา เพิ่มเติมที่เมืองน้ำคำ


ขณะที่ทีเอ็นแอลเอสามารถรุกคืบพื้นที่ในภูมิภาคโกก้าง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐฉาน ได้อย่างต่อเนื่องด้วย แม้จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการจากฝ่ายใด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ประชาชนมากกว่า 25,000 คน ในรัฐฉาน ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงระลอกนี้ และต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย


ด้าน พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและนายกรัฐมนตรีเมียนมา สั่งกองทัพเมียนมา ให้ยกระดับปฏิบัติการโจมตีโต้กลับ ต่อความพยายามสร้างความรุนแรงและความวุ่นวาย ของกำลังชาติพันธุ์หลายกลุ่ม ในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น


ทั้งนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กล่าวว่า กองทัพเอกราชคะฉิ่น (เคไอเอ) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในรัฐคะฉิ่น โจมตีฐานประจำการ และสถานที่เกี่ยวกับการส่งกำลังบำรุงของทหาร ขณะที่เอ็มเอ็นดีเอเอ ทีเอ็นแอลเอ และเอเอ ร่วมกันก่อความไม่สงบในรัฐฉาน


สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็น “ความท้าทายทางทหารครั้งใหญ่ที่สุด” ต่อกองทัพเมียนมา นับตั้งแต่การยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 โดยกระทรวงข่าวสารเมียนมายืนยัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าสูญเสีย “การควบคุม” ที่เมืองชินฉ่วยฮ่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองยุทธศาสตร์ของรัฐฉาน


ขณะที่จีน ซึ่งมีมณฑลยูนนานติดกับพื้นที่สู้รบของเมียนมา เดินหน้าเรียกร้องการหยุดยิง ในเวลาเดียวกัน พล.ร.อ.นิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย เยือนเมียนมา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อสังเกตการณ์ การซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP