สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ว่ากระทรวงกลาโหมของไต้หวันรายงานว่า อากาศยานทางทหาร 10 ลำ ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) ได้แก่ เครื่องบินขับไล่เจ-16 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินขับไล่เจ-11 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินปราบเรือดำน้ำและเครื่องบินสอดแนมทางยุทธศาสตร์อีกแบบละ 1 ลำ ละเมิดเขตพิสูจน์ฝ่ายป้องกันภัยทางอากาศ ( เอดีไอแซด ) บริเวณหมู่เกาะปราตัส นอกชายฝั่งทางใต้สุดของไต้หวัน หรือทางเหนือของทะเลจีนใต้      
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่กองทัพอากาศไต้หวันส่งเครื่องบินรบหลายลำขึ้นบินสกัด ทั้งนี้ พีแอลเอส่งอากาศยานทางทหารบินเข้าสู่น่านฟ้าของไต้หวันบ่อยครั้งขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สันทัดกรณีไม่เชื่อว่า กิจกรรมทางทหารของจีนและไต้หวันจะนำไปสู่การเกิดสงครามระหว่างกัน โดยมองว่า รัฐบาลปักกิ่งใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "พื้นที่สีเทา" ซึ่งไม่ใช่การส่งสัญญาณพร้อมปะทะ แต่เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการ "มีอิทธิพล" เหนือบริเวณที่เป็นเป้าหมาย
ทั้งนี้ การปรากฏตัวครั้งล่าสุดของฝูงเครื่องบินรบจากจีน เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังรัฐบาลไทเปเสนอแผนงบประมาณกลาโหมเพิ่มขึ้นเป็น 8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 289,627.35 ล้านบาท ) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี เพื่อจัดซื้ออาวุธใหม่ ซ่อมบำรุงอาวุธที่มีอยู่เดิม และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับ "ภัยคุกคามข้ามช่องแคบ".

เครดิตภาพ : REUTERS