เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งมีคนนอนอยู่ภายในเรือ อยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี คล้ายว่าจะเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากเรียกแล้วคนในเรือไม่มีการตอบกลับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงตรวจสอบ พบชายนอนตากแดดอยู่ในเรือ ทางเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีที่แจ้งเหตุ ได้พยายามเรียก จนชายที่นอนอยู่ในเรือตะโกนออกมาว่า “ผมเมาจนจำอะไรไม่ได้ว่ามายังไง”

เมื่อสอบถามชื่อทราบ คือ นายศักดิ์ดา อายุ 58 ปี เป็นชาวบ้านแถววัดโค่ง เขตพื้นที่ อบต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี โดยลอยเรือรวมระยะทางจากที่พักถึงหน้าศาลากลางจังหวัดกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดี พยายามที่จะลงไปนำตัวนายศักดิ์ดา ขึ้นมาจากเรือให้สร่างเมาก่อน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากช่วงนี้ กระแสน้ำในแม่น้ำสะแกกรังนั้นไหลแรง แต่กว่าจะช่วยกันนำตัวนายศักดิ์ดา ขึ้นมาได้นั้น ก็ทุลักทุเลกันไม่น้อย เพราะนายศักดิ์ดา อยู่ในสภาพที่มึนเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย หนำซ้ำคำพูดจาบางคำ ก็ทำเอาเจ้าหน้าที่อดขำไม่ได้

พอถึงฝั่ง นายศักดิ์ดา ที่สภาพยืนแทบไม่อยู่ ยังบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผมเมาแล้วก็ไม่เคยกลัวใคร เพราะผมก็นักเลงพอตัว จนสักพักก็มีญาติโทรศัพท์มาหานายศักดิ์ดา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยรับสาย พร้อมกับแจ้งให้ทางญาตินั้นทราบว่า นายศักดิ์ดา นั้น เมาหลับอยู่ในเรือหน้าบ้าน ก่อนลอยมาอยู่ที่หน้าศาลากลาง

หลังจากอาการดีขึ้นจากสร่างเมา นายศักดิ์ดา เล่าว่า มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ก็จำไม่ได้เหมือนกัน จำได้แต่เพียงว่า ตอนเช้ามืดนั้น ได้ซื้อสุราขาวมา แล้วลงเรือพายมาที่หน้าบ้าน จากนั้นก็ดื่มสุราขาวจนหมดไป 2 ขวด แล้วก็เผลอหลับไปในเรือ จนลอยมาถึงที่หน้าศาลากลางดังกล่าว

ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ นับว่าโชคดีที่นายศักดิ์ดา ไม่เมาจนพลัดตกลงน้ำไป เพราะเสี่ยงที่จะเกิดการจมน้ำจนเสียชีวิตจากความเมาสุราในครั้งนี้ได้.