เมื่อวันที่ 28 ต.ค. จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กลางดึกที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชา กว่า 500 ร้าน เก็บของหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่รถระดมรถน้ำกว่า 20 คัน เข้าทำการดับเพลิงจำนวนมาก ล่าสุดเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้า พบซากปรักหักพังและความเสียหายของร้านค้าจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยบางส่วน ต่างทยอยเก็บข้าวของที่พอจะใช้ได้หลังทะเลเพลิงโหมลุกไหม้สร้างความเสียหาย ขณะเดียวกัน ยังมีรถน้ำของ อบจ.สุรินทร์ มาคอยฉีดน้ำสกัดไฟที่ยังคุกรุ่นในบางส่วน

เบื้องต้นมีร้านค้าเสียกว่า 290 ร้านค้า รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการมีการสต๊อกสินค้าต่างๆ อัดไว้จำนวนมาก เพื่อเตรียมไว้ขายในช่วงออกพรรษาและช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ แม่ค้าชาวกัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า ร้านตนเองเสียหายหมดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ตนค้าขายสินค้าของใช้ทั่วไปมาตั้งแต่ตลาดเปิด ไม่ต่ำกว่า 15 ปี ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไงดี หมดตัว

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเข้าประเมินสถานการณ์ คาดว่าสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร และสรุปความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านบาท ขณะที่เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น บริเวณอาคาร OTOP และจะดำเนินสำรวจความเสียหายทั้งหมด เพื่อประสานความช่วยเหลือและฟื้นฟูต่อไป