บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ค.64 ปรับขึ้นในแดนบวก จากการเข้าซื้อหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มน้ำมันที่รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังการประชุมโอเปกพลัสที่ยังไม่สามารถตกลงเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้ แม้สถานการณ์โควิดในประเทศ รวมทั้งการบริการจัดการวัคซีนยังกดดันตลาด ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,591.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.15จุด หรือ 0.77% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 69,485.37 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 516.09 จุด เพิ่มขึ้น 9.54 จุด หรือ 1.88 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10,697.99 ล้านบาท

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาสที่ 3 คาดว่ากำลังจะเปลี่ยนผ่านจากช่วงเวลาที่ตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยมูลค่า สู่ช่วงเวลาที่ตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยการเติบโตตามปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยประเมินว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้น เพราะมี ความชัดเจนของกำไรที่สูงและมีความผันผวนที่ต่ำกว่ากลุ่มหุ้นวัฏจักร แนะนำ ลงทุนหุ้นขนาดเล็กและหุ้นเชิงรับ ที่มีปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวเป็นแรงขับเคลื่อนกำไร มีมูลค่าที่สมเหตุสมผล และพึ่งพาแรงส่งทางเศรษฐกิจมหภาคน้อย

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ซีบีจี ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

2.คอตโต้ ปิดที่ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

3.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

4.ปตท.สผ ปิดที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

5.บ้านปู ปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท