เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เปิดคลิปวินาทีระทึก ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย บุกเข้าชาร์จหญิงสาววัย 35 ปี ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดพร้าด้ามยาวฟันศีรษะยายข้างบ้านวัย 84 ปี บาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงสายๆ วันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นครนายก โดยหลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บมีบาดแผลถูกฟันที่กลางหน้าผาก ยาว 10 เซนติเมตร ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านกัน ทราบชื่อนางจุ๋ม (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 35 ปี หลังก่อเหตุยังถือมีดอาละวาด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่เป็นผล ก่อนบุกใช้เหล็กง่ามดันตัวแล้วบุกชาร์จคุมตัวไว้ได้สำเร็จ ก่อนนำตัวไปยัง รพ.นครนายก เพื่อรักษาอาการ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถาม หลานสะใภ้ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุยายกับเพื่อนยายเดินคู่กันมาโดยที่ไม่ได้ระวังอะไร เพราะปกติผู้ก่อเหตุจะนอนเล่นอยู่ที่เปลหน้าบ้านทุกวัน แต่วันเกิดเหตุมาดักซุ่มรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ พอยายเดินผ่านมา ก็ถือมีดพร้าด้ามยาวที่ใช้ถางหญ้าฟันหน้าผากของยายเข้าอย่างจัง พร้อมตะโกนถามว่า “มึงเดินมาทางนี้ทำไม” จากนั้นก็เดินกลับเข้าบ้านไปนอนที่เปลอย่างเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนคนสติแตกมากกว่า เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกทำร้ายร่างกายแบบไม่มีอาวุธมีด ตบตีจิกหัวกับคนที่เดินผ่านบ้าน กระทั่งครั้งนี้หนักสุด

หลานสะใภ้ เล่าอีกว่า ส่วนอาการยายล่าสุดดีขึ้นแล้ว พ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนคนก่อเหตุยังถูกคุมตัว และตรวจสอบสภาพจิตใจ อย่างไรก็ตาม อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ เพราะถ้าเกิดหมอสรุปว่าป่วยจิตเวช ยายตนคงต้องเจ็บตัวฟรี อีกอย่างตนมีลูกน้อย ถ้าวันใดวันหนึ่งลูกเดินผ่านหน้าเขาหรือส่งเสียงดัง เขาจะไม่เอามีดมาไล่ฟันอีกหรือ จึงอยากให้เร่งเข้ามาดูในส่วนนี้ด้วย

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเดิมไม่ใช่คนก้าวร้าวอะไร อย่างดีก็แค่ด่าคนที่เดินผ่านไปมา วันเกิดเหตุมีดที่ใช้ก่อเหตุก็ไม่ใช่มีดของเขา ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากอาการโรคประสาทหรือสติไม่ค่อยดี ซึ่งปกติถ้าไม่มีใครไปยุ่ง เขาก็จะไม่ยุ่งกับใคร ลักษณะเกิดเหตุเหมือนอาจมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหรือไม่ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น คงต้องให้เป็นหน้าที่ตำรวจสอบสวนผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง