สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ออกมายืนยัน หลังการประชุมที่สำนักงานใหญ่ ในเมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่วันอังคารที่ผ่านมาว่า สหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ รวมถึงสาธารณรัฐไอร์แลนด์ จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2028” ขณะที่ ตุรกี กับ อิตาลี จะจับมือกันเป็นเจ้าภาพยูโร 2032 โดยหลังจากนี้ เหลือแค่การอนุมัติอย่างเป็นทางการเท่านั้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/10/d74886b0-16f2-430c-b5e1-39914b86d63d.jpg)
ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ตัดสินใจล้มแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 เพื่อมุ่งเป้ามาที่การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูโร 2028 อย่างเต็มที่ ก่อนที่เส้นทางของพวกเขาจะสดใส เมื่อ ตุรกี ซึ่งก่อนหน้านี้ยื่นเสนอตัวเป็นคู่แข่งด้วยนั้น ตัดสินใจถอนตัวเพื่อไปจับมือกับ อิตาลี เป็นเจ้าภาพยูโร 2032 แทน ก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ชิงเจ้ายุโรปตามลำดับโดยไม่มีคู่แข่ง
สำหรับสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์นั้น จะใช้ 10 สังเวียนแข้งในการจัดการแข่งขัน โดยแบ่งเป็นในอังกฤษ 6 สนาม ประกอบด้วย เวมบลีย์ ซึ่งคาดว่าจะได้จัดเกมนัดชิงชนะเลิศ, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม, เอติฮัด สเตเดี้ยม, เซนต์ เจมส์ ปาร์ก, วิลลา ปาร์ก และสนามเหย้าแห่งใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน ในเมืองลิเวอร์พูล ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในเวลานี้
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/10/image-1450-669x1024.webp)
นอกจากนี้ยังมีสนามปรินซิปัลลิตี สเตเดี้ยม ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ในเกมเปิดสนาม, แฮมป์เดน ปาร์ก ในกลาวโกว์, อาวีวา สเตเดี้ยม ในกรุงดับลิน รวมถึง เคสเมนต์ ปาร์ก ในเบลฟาสต์ ที่กำลังจะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากนี้
ส่วนเรื่องการผ่านเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติของชาติเจ้าภาพนั้น โดยปกติแล้วตามกฎของ ยูฟ่า จะให้โควตาชาติเจ้าภาพเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติได้ไม่เกิน 2 ชาติ แต่จากการมีเจ้าภาพร่วมกับ 5 ชาติ ทำให้เป็นที่คาดกันว่า องค์กรลูกหนังยุโรป น่าจะใช้วิธีให้ทั้ง 5 ชาติ ลงเล่นรอบคัดเลือกตามปกติ และทีมไหนที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ค่อยมาใช้โควตาเจ้าภาพ 2 ที่ดังกล่าว ในการลงเล่นรอบสุดท้าย แต่ยังต้องรอการยืนยันอีกครั้ง