ตำนานมาเฟียเรื่องรักยืนหนึ่ง ผ่านมาแล้วทุกร้อยดราม่า “เป๊ก สัณณ์ชัย” สามีสายเข้ม “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ถอดเขี้ยวเล็บกลายเป็นพี่ใหญ่ถ่ายทอดประสบการณ์สอนรุ่นน้องเรื่องผัวๆเมียๆผ่านช่องยูทูบ คนละเป๊ก จนเป็นข่าวฮือฮา ล่าสุดขอเปิดใจชีวิตส่วนตัวของตัวเอง ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่มเผยชีวิตใหม่ นิวเป๊ก นิวลุค ลดละเลิกทุกอย่างเพื่อลูกสาว “น้องลียา” ร่วมไปถึงเผยสาเหตุทำไมบวชบ่อย หันหน้าเข้ารสพระธรรมบวชมาแล้วถึง 5 ครั้ง

เป๊ก เผยว่า “เรื่องลดละเลิกความเจ้าชู้ คือเราก็ทำอะไรให้อยู่ในกรอบมากขึ้น ไม่ให้ลูกต้องลำบากเพราะว่าลูกยังอยู่ในสังคมที่ต้องเรียน อะไรเยอะแยะไปหมด ยิ่งถ้าเราทำอะไรผิดพลาดไป และเราอยู่ในสายตาของคนกลุ่มใหญ่ด้วย ถ้าหากเกิดเรามีอะไรผิดพลาดไปเสียหายไป มันก็จะไปกระทบอะไรกับลูก เราก็ต้องดูแลเรื่องนี้นิดนึงครับ ตอนนี้ก็ทุกเรื่องที่จะมันจะทำให้เป็นเรื่องได้ ก็ต้องเข้มงวดไม่ให้มันเกิดขึ้นเดี๋ยวมันจะไปกระทบกับลูก และภรรยาได้ ที่ดูผมเปลี่ยนไปเยอะ มันก็ด้วยอายุด้วยประสบการณ์ด้วยอะไรหลายอย่างก็แล้วแต่ มันก็ทำให้เราเปลี่ยน ที่เลิกปาร์ตี้สนุกน้อยลงก็จริงครับ แต่บ้างวันก็ยังมีแบบวันเก่าๆนั้นอยู่ (หัวเราะ) ก็มีบ้างเดือนนึงครั้งนึงที่จะอยู่กับเพื่อนสนิท เราก็โอเคอยู่ในที่ของเราอะไรแบบนี้”

“กับลูกสาวเป็นวัยรุ่นแล้ว ก็เป็นห่วงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเค้าเกี่ยวกับเรื่องฮอร์โมนเหมือนกันนะ คือเค้าจะเปลี่ยนแปลงในตัวเค้าเองเยอะมาก เราก็ต้องตามรับมือให้ทัน คือเราก็ต้องดูว่าเค้าต้องจะเปลี่ยนอะไร และรับมือไปกับเค้า เรื่องลูกขอมีแฟนถึงเวลาจะมีก็คงจะมีได้ ก็ต้องสกรีนตั้งแต่ปู่ย่าพ่อแม่เค้ามา ต้องสกรีนเยอะหน่อย เรื่องยกสมบัติทั้งหมดให้ลียาแล้วคือเป็นสิ่งที่เราตั้งใจให้เขาอยู่แล้ว เรามีปู่ย่าตายายที่มอบสมบัติให้เรามา เราก็ไม่อยากได้ตรงนั้น เราก็ยกให้เค้าหมดทุกวันนี้ก็ต้องทำหลายอย่างทำรายการคนละเป๊ก ทำหลายอย่างมากทำเยอะทุกวันนี้ธุรกิจครอบครัวก็เยอะอยู่แล้ว และส่วนตัวก็มีทำอีเวนท์ทำ YouTube ไปเรื่อย แล้วก็มีทำอาหารเป็นชื่อเชฟเทเบิ้ล”

เป๊ก เล่าต่อว่า “เรื่องการบวช คือถ้าเริ่มบวชครั้งแรกก็คือเป็นเรื่องการบวชเรียนที่เป็นเณร อันนี้คือตามวัยที่พ่อแม่บอกให้บวช แต่ครั้งที่สองสามสี่ห้านี้คือ เรารู้สึกว่าเราอยากบวชเอง เพราะว่าชีวิตเขาเราอยากทำให้มันบาลานซ์บ้าง ผมรู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะต้องทำบุญเท่าไรเพื่อจะมาลบล้างได้ในชาติหน้านะ คือลบล้างหรือว่าทดแทนในฆราวาสในสิ่งที่เราเป็นคน เราใช้ชีวิตสำมะเลเทเมามาตั้งแต่วัยรุ่น เราก็อยากมีสักครั้งในห้าปีที่เราเข้าไปอยู่ใน พระพุทธศาสนาที่เราปฏิบัติทำเต็มที่ ไม่ได้อยากจะลบล้างกรรมหรือว่าสิ่งที่ทำมาในชาตินี้นะครับ แต่ก็รู้สึกว่าทำให้ตัวเองมีจิตใจที่ดีขึ้น มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองกว่าที่เราบวชนี้แหละ บวชแต่ละครั้งก็พรรษาหนึ่งครับ ทุกครั้งที่บวชก็ประมาณสามเดือนครับ ถามว่าจะกลับไปบวชอีกไหม กลับครับ เราได้เรียนรู้แต่ละครั้งมันค่อนข้างแตกต่างกัน ด้วยอายุอย่างตอนเป็นเณรก็ยังเด็กอยู่ ร้านสุดท้ายล่าสุดที่เราบวชครั้งที่ห้าตอนนั้นก็ 48 แล้ว แต่ตอนที่ยังไม่ได้บวชอายุประมาณนี้เราก็คิดว่าเราคิดอะไรได้เยอะแล้ว แต่พอไปบวชได้มีเวลาอยู่กับตัวเองเนี้ย เราก็ได้คิดอะไรมากขึ้นทั้งในเรื่องของคนที่คบ หรือว่าใครทำอะไรกับเราวันนั้นนะวันนี้นะ มันก็ทำให้เราคิดได้ ประกอบกับทางพระพุทธศาสนาเราก็เห็นว่า วัยรุ่นหรือว่าวัยอื่นๆก็คือบวชน้อยลง เราก็อยากเป็นคนนึงที่นำพา พระพุทธศาสนาให้อยู่ไปตลอด”