เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 5 ต.ค. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เข้าร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า ต้องชี้แจงว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ โดยวาระการพิจารณาวันที่ 27 ก.ย. มี รอง ผบ.ตร. 4 คน ที่เข้าคุณสมบัติ ส่วนจเรตำรวจเกษียณอายุราชการ แล้วกฎหมายใหม่ได้กำหนดเกณฑ์การคัดเลือก ผบ.ตร. จากความอาวุโส และความรู้ความสามารถ ประกอบกัน

ซึ่งส่วนข้อเท็จจริงในวันนั้น ในแง่ของความอาวุโสของแคนดิเดต จะมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ อาวุโสสูงสุด โดยอายุมากกว่าแคนดิเดต 3 คน อยู่ 1 ปี แล้วแคนดิเดตที่เหลือ 3 คน ก็มีความอาวุโสเท่ากัน ดังนั้นความแตกต่างเรื่องอาวุโสจึงมีเพียง 2 ระดับ ส่วนเรื่องความรู้ความสามารถนั้น ก่อนที่นายกฯ จะเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นั้น นายกฯได้เปิดให้แสดงความเห็นของกรรมการ มุมมองความรู้ความสามารถของแคนดิเดตแต่ละคนเป็นอย่างไร ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร และตบท้ายด้วยการให้ ผบ.ตร. ที่จะกำลังเกษียณในตอนนั้นเป็นผู้นำเสนอว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ประเมินแคนดิเดตแต่ละคนว่าอย่างไร ซึ่งหลังการรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านแล้ว ท่านนายกฯ จึงตัดสินใจเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นผบ.ตร. และที่ประชุมหลังจากที่ได้ฟังการอภิปรายแล้ว ก็เห็นชอบ 9 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง เลือกพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร.  

“ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง เทียบกับข้อกฎหมาย การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ครั้งนี้จึงไม่น่ามีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ข้อเท็จจริงมีความชอบธรรม สมเหตุสมผล นายกฯไม่ได้ลุแก่อำนาจ นายกฯยึดตามหลักกฎหมายและรับฟังอย่างรอบด้านจริงๆ”

นายชัย กล่าวว่ากรณีนี้ไม่เหมือนกับปี 2565 ที่มีคนไปร้องศาลปกครอง โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ที่มีการเข้าไปคัดเลือกไปสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้อภิปรายเรื่องความรู้ความสามารถ ผลงาน และประเมินผล พิจารณาแค่ 4 นาที แล้วตัดสินเลย คนที่ไปร้องศาลเพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และศาลปกครองก็เห็นด้วยว่าเป็นการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรม ต่างจากการแต่งตั้งครั้งนี้ ที่พูดคุยกันมาก และผู้บังคับบัญชามีการประเมินผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าใครทำงานอย่างไร นายกฯรับฟังเรื่องแล้ว จึงพิจารณาเสนอชื่อ

เมื่อถามว่า หากมีการฟ้องร้อง จะดำเนินการอย่างไร โฆษกรัฐบาลกล่าวว่าก็ชี้แจงตามข้อเท็จจริง ถ้าต้องไปชี้แจงที่ไหนก็ชี้แจงได้ ซึ่งไม่ใช่แค่นายกฯ เท่านั้น แต่คนในที่ประชุมที่นั่งฟังอยู่ รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เขาสามารถชี้แจงได้

เมื่อถามว่า นายกฯได้ปรารภเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายชัย กล่าวว่านายกฯ บอกแต่เพียงว่าท่านนึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหากัน มันไม่ควรเป็นเรื่อง เสียเวลา เสียสมาธิ แต่เมื่อเป็นเรื่องขึ้นมาแล้ว สังคมก็อยากจะรู้ นายกฯจึงให้มาทำความเข้าใจ.