สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ว่า จากเนื้อหาตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 เดือนที่กลุ่มตาลีบันกลับมายึดครองอัฟกานิสถาน นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่า จริงอยู่ที่ยูเอ็นและหน่วยงานในเครือ เป็นองค์กรระหว่างประเทศขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลก"ตั้งความหวังบางอย่างซึ่งไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง"
เกี่ยวกับการที่รัฐบาลวอชิงตันหลายสมัยทุ่มงบประมาณรวมกันมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 32.9 ล้านล้านบาท ) ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา คือการที่รัฐบาลและกองทัพอัฟกานิสถาน "ล่มสลายภายในเวลาอันรวดเร็ว" ก่อนที่สหรัฐและพันธมิตรจะเสร็จสิ้นการถอนทหาร เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา กูเตร์เรส กล่าวว่า เป็นเรื่องที่บ่งชี้ชัดว่า การจะคลี่คลายปัญหาซึ่งยืดเยื้อเรื้อรังมานานหลายทศวรรษ ภายในระยะอันจำกัดนั้น "เป็นเพียงจินตนาการ"
อย่างไรก็ตาม กูเตร์เรสยืนยันว่า ยูเอ็นจะเดินหน้าทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวอัฟกัน 36 ล้านคน ให้รอดพ้นจาก "หายนะทางมนุษยธรรม" ซึ่งรวมถึง "การต้องมีความร่วมมือ" กับกลุ่มตาลีบัน แต่เลขาธิการยูเอ็นมองว่า รัฐบาลอัฟกานิสถานภายใต้กลุ่มตาลีบัน "ต้องมีความหลากหลายและขับเคลื่อนนโยบายให้ครอบคลุม" มากกว่าในอดีต ที่เคยปกครองประเทศแห่งนี้ ระหว่างปี 2539-2544
ขณะเดียวกัน กูเตร์เรสมองว่า กระบวนการจัดสรรและส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่อัฟกานิสถาน น่าจะใช้เป็นเครื่องมือโน้มน้าวและต่อรอง ให้กลุ่มตาลีบันเพิ่มการเคารพต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง นอกจากนี้ บรรดาประเทศและองค์กรการเงินที่เคยให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่อัฟกานิสถานมาตลอด ควรกลับมาอัดฉีดเงินให้กับระบบเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานบ้าง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการล่มสลาย
ทั้งนี้ทั้งนั้น "ยังเร็วเกินไป" ที่จะสรุปว่า กลุ่มตาลีบันทำตามคำมั่นสัญญาทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน "คาดเดาได้ยาก" แต่เป็นเรื่องสำคัญกับการที่ทุกฝ่ายต้อง "มีส่วนร่วม".

เครดิตภาพ : REUTERS