เมื่อวันที่ 3 ต.ค. สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ ระบุ ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในประเทศไอซ์แลนด์ ระหว่างคนไทยที่แสดงตัวเป็นเจ้าของร้านกับ สว. ท่านหนึ่ง เป็นสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นและสะสมมาตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เพียงแต่เปลี่ยนคู่กรณีแห่งความขัดแย้งจากฝ่ายอนุรักษนิยมกับผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทย มาเป็นผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลแทนเท่านั้น

ความขัดแย้งทางการเมืองทำให้สังคมไทยแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย นำมาซึ่งความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกันเอง จึงเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างจริงจัง ในทางตรงข้ามกับสร้างความขัดแย้งเพิ่มใช้เป็นเครื่องมือในการครองอำนาจ โดยมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นเครื่องมือบิดเบือนอำนาจของประชาชน จึงทำให้ความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขสะสมเพิ่มมากขึ้นจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ความขัดแย้งล่าสุดเกิดจากคนไทยจำนวนหนึ่งซึ่งอาจจะรวมถึงผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารดังกล่าว ที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล มีความรู้สึกคับข้องใจที่พรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. ที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี สาเหตุแห่งความขัดแย้งจึงเกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบือนอำนาจของประชาชน การปล่อยให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับต่อไป นอกจากความขัดแย้งจะเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลและกลุ่มการเมืองบางกลุ่มฉวยโอกาสใช้ความขัดแย้งเพื่อหาประโยชน์และสร้างฐานทางการเมือง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ

เครื่องมือเดียวที่จะใช้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งคือ ความยุติธรรมหรือหลักนิติธรรม ซึ่งมิอาจเกิดขึ้นได้จากรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายผู้ยึดอำนาจจัดทำขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ รัฐบาลจึงควรตระหนักถึงเภทภัยแห่งความขัดแย้ง ด้วยการนำพาประเทศเข้าสู่ความปรองดองเพื่อลดความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน โดยการเร่งกระบวนการเพื่อให้ประชาชนได้มีรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเองบังคับใช้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งคืนความถูกต้องและความชอบธรรมให้กับทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ซึ่งรวมถึงการคืนสิทธิทางการเมืองให้กับผู้ที่ถูกตัดสิทธิเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้

นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์

นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย

3 ตุลาคม 2566