เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ย. พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายไสว ขันผักแว่น อายุ 60 ปี อดีตนายก อบต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 134/2554 ลงวันที่ 20 พ.ค.2554 ในข้อหาฆ่าคนตาย หลังก่อเหตุยิงนางวนิดา เสตะปุตตะ หรือ “สจ.หมู” อดีต ส.อบจ.เขต 5 จ.นครราชสีมา คนสนิทของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เสียชีวิตพร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนเมื่อปี 54 แล้วหนีมากบดานในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยทำงานก่อสร้าง กับบริษัทรับเหมารายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมตัวได้ขณะนำรถยนต์ของบริษัทมาปะยาง ที่ร้านซ่อมริมถนนธราธิบดี เขตเทศเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ขณะนั้น นายไสวดำรงตำแหน่ง นายก.อบต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาของตัวเองคือ นางวนิดา เสตะปุตตะ หรือ สจ.หมู อายุ 49 ปี ส.อบจ. เขต 5 จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เสียชีวิตพร้อม นายเจษฎา เสตะปุตตะ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อบต.บ้านเกาะ ลูกชายของ สจ.หมู รวม เป็น 2 ศพ แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดภายในร้านอาหารบ้านลานตะวันถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ต่อมา พล.ต.ต.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ได้เข้าสอบปากคำนายไสว เบื้องต้นเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุที่ร้านอาหารดังกล่าวซึ่งเป็นของตนและภรรยาได้มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งในส่วนของสมาชิกสภาจังหวัดและในส่วนของกลุ่มของตน โดยวันเดียวกันนั้นตนได้เชิญทนายความส่วนตัวมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับทรัพย์ส่วนตัว ทำให้ภรรยาระแวงว่า ตนจะฟ้องร้องเพื่อเอาทรัพย์สินที่ตนเคยยกให้กลับคืน ทำให้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นใช้กำลังทุบตีกัน
นายไสว ให้การต่อว่า จังหวะนั้นนายเจษฎา ลูกชายของผู้ตายเข้ามาช่วยแม่ โดยพยายามใช้ไม้เบสบอลเข้ามาทำร้าย ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ทั้งคู่ จนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ มาอาศัยอยู่แถวกรุงเทพฯ และปริมณฑล และหลบหนีมาทำงานก่อสร้างอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จนถึงปัจจุบันและถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกการจับกุม และเตรียมตัวนำส่งพนักงานสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.