เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ดร.ธนารัชต์ สมคเณ อดีตประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เรื่องข้อเสนอต่อคุรุสภาในการดำเนินการอาจขัดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 คือ ขอให้คุรุสภายกเลิกค่าปรับในการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพล่าช้า และคืนเงินค่าปรับแล้วคืนให้แก่สมาชิกผู้ถูกปรับ ยกเลิกการสอบเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และกำชับให้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลจรรยาบรรณวิชาชีพและดำเนินการพิจารณาคดี การประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพทางการศึกษาให้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด

ดร.ธนารัชต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบวิชาชีพได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินกิจการของคุรุสภา เพราะคณะกรรมการคุรุสภาออกข้อบังคับเกินอำนาจหน้าที่ที่กำหนดในพรบ.สภาครูฯ โดยเฉพาะการขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่หมดอายุ เมื่อขอต่อใบอนุญาตฯ จะต้องเสียค่าปรับต่อใบอนุญาตฯที่ล่าช้า ต้องจ่ายเงินค่าปรับให้แก่คุรุสภาเดือน เดือนละ 200 บาทต่อใบโดยไม่กำหนดเพดานค่าปรับ ซึ่งบางคนต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินหลักหมื่นบาท จึงขอถามว่า พ.ร.บ.สภาครูฯ คุรุสภามีอำนาจในการกำหนดค่าปรับได้หรือไม่ เพราะค่าธรรมเนียมที่กำหนดแนบท้าย พ.ร.บ.สภาครูฯ กำหนดค่าธรรมเนียมให้คุรุสภาเก็บได้เฉพาะค่าขึ้นทะเบียน ฉบับละ 600 บาทค่าต่อใบอนุญาตฉบับละ 200 บาท ค่าหนังสือรับรอง 300 บาท ค่าวุฒิบัตร 400 บาท ค่าใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 200 บาท กฎหมายกำหนดให้คุรุสภาเก็บได้เท่านั้น

“ผมอยากให้ รมว.ศธ. หาผู้รู้และเข้าใจเจตนารมณ์ พ.ร.บ.สภาครูฯ มาช่วยงาน นอกจากนี้ขอให้มีการคืนเงินค่าปรับให้แก่ครูที่ถูกปรับไปแล้วด้วย รวมถึงอยากให้ รมว.ศธ. ผลักดันยกเลิกมาตรา 44 ของคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยการคืนคุรุสภาหรือสภาครูให้ครูได้ดูแลกันเอง ไม่ใช่ให้คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาดูแลสภาครู ซึ่งมันไม่ใช่เจตนารมณ์ของกฎหมาย” ดร.ธนารัชต์