จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ ผู้ต้องหาร่วมกับพวกตำรวจชุด 05 จำนวน 6 นายใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงษ์ หรือ มาวิน ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเพื่อขยายผล และเรียกรับเงินจำนวน 2ล้านบาท แต่ภาพวงจรปิดในบ้านกาแฟ สามารถบันทึกภาพการกระทำความผิดไว้ได้ จนนำมาสู่การออกหมายจับและดำเนินคดีผู้ต้องหาร่วมกันฆ่ารวม 7 นายนั้น คดีได้โอนไปยังส่วนกลางและยังอยู่ระหว่างการรวบรวมสำนวนให้พนักงานอัยการเพื่อส่งศาลฟ้องศาลในคดีอาญาต่อไปตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.นครสวรรค์ พร้อมพนักงานสอบสวนในคดี ผกก.โจ้ ร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบกรณี พ.ต.อ.สุทธินันท์ วงศ์แช่มดี ผกก.สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรนครสวรรค์พร้อมตำรวจกองปราบ ค้นห้องพักของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ บ้านพักของ ดาบตำรวจวิสุทธิ์ บุญเขียว หรือ ดาบโบ้ ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี พบยาบ้าจำนวน 200 เม็ด กัญชา 1 แท่ง และไอซ์จำนวนหนึ่งนั้น
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อตรวจสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐานกรณีการค้นห้อง ผกก.โจ้ไม่พบอะไรเพิ่มเติม นอกเหนือจากสื่อได้เสนอข่าวไปแล้ว ส่วนการตรวจค้นห้องพักของ ด.ต.วิสุทธิ์ พบยาเสพติดและแจ้งข้อหาให้ดาบโบ้ทราบแล้ว ซึ่งวันนี้ได้มาสอบสวนขยายผล กรณีการค้นพบยาเสพติดในห้องดาบโบ้ และสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มให้รอบคอบ การสอบสวนเพิ่มเติม ในสำนวนจะได้นำข้อมูลเรื่องยาเสพติด ของทุกฝ่ายนำมาแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน ซึ่งตนได้รับรายงานการสอบสวนเรื่องยาเสพติด ที่พบแล้วจึงนำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนกันและได้สั่งการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นโดยเร็วแล้ว
เปิดประวัติ ‘ผกก.โจ้’ หลังถูกเด้งปมรีดเงินผู้ต้องหา ‘หล่อ-ไฮโซ’ เคยจีบ ‘เมย์ พิชญ์นาฏ’…
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ยาเสพติด หรือ ไอซ์ ที่ค้นพบในห้องของดาบตำรวจวิสุทธิ์ เป็นลักษณะเดียวกับยาไอซ์ที่พบหรือยึดได้จากผู้ตายในคดีนี้ แต่จะเป็นของใครอย่างไร เราไม่รู้ ต้องพิสูจน์ การส่งตรวจดีเอ็นเอยังไม่แน่ชัดข้อมูล ส่วนดีเอ็นเอไม่ชัดลักษณะกายภาพ หีบห่อ หรือวัสดุเหมือนกัน หากการตรวจสอบตรงหรือไม่ตรง ก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ถ้าตรวจสอบว่าเป็นอันเดียวกัน ซึ่งมันไม่มีอะไรจะตรงกัน เพราะวัสดุที่ใช้มันก็แตกต่างกันอยู่แล้ว
ส่วนยาบ้า กัญชา ไม่เกี่ยวกับคดีที่ผกก.โจ้ ใช้ถุงคลุม เป็นเรื่องของดาบโบ้ ที่ต้องไปแก้ข้อหาในคดีของตัวเอง เพราะว่ากัญชา ยาบ้า ไม่ได้พบในตัวผู้ต้องหาที่เสียชีวิต เป็นเรื่องของดาบโบ้จะต้องพิสูจน์เอง ซึ่งจากการสอบสวนดาบโบ้ เป็นหนึ่งในจำนวนผู้ต้องหาทั้งหมด ที่ไม่ยอมให้การใดๆเลยทั้งคดีหลักที่ฆาตกรรม และคดียาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นแม้ว่าจะปฏิเสธแต่ยังให้การที่เป็นประโยชน์.