เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ในฐานะประธานในการจัดสรรโควตากรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ สภาผู้แทนราษฎร จำนวน 35 คณะ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งประธาน กมธ. ว่า จะต้องได้ข้อยุติในสัปดาห์หน้า โดยล่าสุดตนได้ออกหนังสือเชิญประชุมในวันที่ 21 ก.ย. เวลา 13.30 น. ซึ่งจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคมาพูดคุยตกลงกันอีกครั้ง จะใช้ข้อบังคับโดยหากตกลงกันไม่ได้ ตนจะใช้ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมี เพราะไม่สามารถรอได้ เนื่องจากมีปัญหาของประชาชนที่อยากให้พิจารณา ดังนั้นหากไม่รับผิดชอบตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคม ตนก็ต้องทำตามธรรมชาติ โดยอันดับแรกจะใช้วิธีการจับสลาก แต่หากยังไม่ยอม ก็จะให้ไปลงมติกันในที่ประชุมในทุกคณะ แต่จะแย่กว่าเดิม จะเอาหรือไม่ ทั้งนี้ เราอยู่สภามานาน ตามความเป็นจริงจะต้องมีกรรมาธิการ มีประธานมาทำงานแล้ว ไม่ใช่ทอดเวลามันเนิ่นนานขนาดนี้ ดังนั้นขอให้พรรคการเมืองที่มีปัญหาคิดให้ดี ไม่เช่นนั้นสิ่งที่จะได้ก็จะไม่ได้สักอย่าง ต้องคิดให้ดีว่าจะเอาอย่างไร ถ้าทำอย่างนี้ก็จะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

“ผมบอกให้คุยกันแล้ว ถ้าโหวตแล้วรัฐบาลได้เปรียบทุกคนก็รู้อยู่ว่าอะไรจะเป็นอย่างไร จับสลากจะเป็นอย่างไร โหวตในห้องจะเป็นอย่างไร ถ้ายังรักษาผลประโยชน์สุดท้ายจะไม่ได้สักอย่าง จนถึงวันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย และผมมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ก็ต้องทำตามหน้าที่ของผมใช่หรือไม่ ซึ่งในวันที่ 21 ก.ย. นี้ ต้องจบจะรออะไร รอผลประโยชน์ของแต่ละคนแต่ละพรรค แล้วผลประโยชน์ของประชาชนมันรอได้ไหม” นายพิเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคก้าวไกล ได้ สส. เพิ่มมาอีก 1 คน จากการเลือกตั้งซ่อม จ.ระยอง ตรงนี้จะทำได้สัดส่วน ประธาน กมธ. เพิ่มอีก 1 ตำแหน่งหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีประกาศรับรองการเป็น สส. จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้นหากจนถึงวันที่ 21 ก.ย. แล้ว ยังไม่รับรอง ก็ต้องเดินหน้าตกลงเรื่องตำแหน่งประธาน เพราะรอไม่ได้ พร้อมย้อนถามว่าหากเดือนก.ย. และเดือน ต.ค. ยังไม่ประกาศรับรอง จะให้รอไปถึงไหน ทั้งนี้หาก กกต. รับรองก่อนวันที่ 11 ก.ย. พรรคก้าวไกลก็จะได้ตำแหน่งประธาน กมธ. เพิ่มอีก 1 ตำแหน่งตามหลักการ และขอย้ำว่าการตัดสินใจตรงนี้ เป็นการทำตามหน้าที่ ซึ่งการตกลงกัน ถ้าได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ปล่อยไว้ก็ยังไม่ได้ต่อไปเรื่อยๆ จึงต้องหาข้อยุติ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถเดินหน้าทำงานได้ จะทำตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาของส่วนรวม.