บีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย เตรียมเปิดตัวสมาชิกใหม่รุ่นที่สองแห่งตระกูล XM กับบีเอ็มดับเบิลยู XM50e ใหม่ ที่ยังคงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริดอันทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M Twin Power Turbo มอบไดนามิกสุดเร้าใจพร้อมกับสมรรถนะอันน่าทึ่งรถยนต์ พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติมกับออพชั่นเสริมซึ่งสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย รูปลักษณ์ภายนอกบ่งบอกถึงความพิเศษ ตัวตนที่โดดเด่นและสมรรถนะที่ไม่เหมือนใครเช่นเดียวกับรถในตระกูล XM รุ่นก่อนหน้า ด้วยการผสมผสานความเป็นรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์หรือ Sport Activity Vehicle (SAV)อันทันสมัย รูปลักษณ์ที่ทรงพลัง สัดส่วนไดนามิกที่แข็งแกร่งการออกแบบ

การออกแบบในสไตล์ M ยังช่วยเน้นย้ำถึงความดุดันและความมั่นใจของดีไซน์รถยนต์รุ่นนี้ เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าสองชั้น และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมกรอบไฟส่องสว่างล้อมรอบกระจังหน้าทั้งคู่ แถบสีด้านข้างรถช่วยยกระดับดีไซน์ด้านข้างของบอดี้ นอกจากนั้นการออกแบบยังรวมเอาองค์ประกอบต่างๆ ที่ชวนให้นึกถึงอดีต อาทิ โลโก้ BMW ที่สลักไว้ที่กระจกหลัง และไฟท้ายรวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ในสีดำเงา และการตกแต่งรายละเอียดเส้นสายในสีดำดุดัน ช่วยขับให้บุคลิกของรถรุ่นนี้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

พร้อมส่งมอบขุมพลังที่อัดแน่นตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบคันเร่งด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M Twin Power Turbo และระบบขับเคลื่อน M Hybrid ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 350 กิโลวัตต์ / 476 แรงม้า ที่แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร ให้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังตั้งแต่ออกตัว นอกจากนี้ ปุ่ม M Hybrid ที่วางอยู่บริเวณคอนโซลกลางยังให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับได้ถึงสามโหมด ซึ่งรวมถึงโหมด ELECTRIC สำหรับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ ให้กำลังสูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตัน-เมตร ให้ความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากลิเทียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ

เทคโนโลยี M xDrive ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับประกันการส่งกำลังการขับขี่สู่ท้องถนนอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก นอกจากนี้ ช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional ยังให้การควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่กระทบต่อความสบายของผู้ขับขี่นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional พร้อมควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย และเพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ให้ความรู้สึกสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวในการขับขี่ เมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตกแต่งภายในสะดุดตาและหรูหราไปอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีชุดไฟตกแต่งภายในระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย

สําหรับเบาะนั่งตอนหน้าที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรถยนต์รุ่นนี้ด้วยบีเอ็มดับเบิลยู XM 50e ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic Sounds Electric ที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์พกพากับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังจะได้รับประโยชน์จาก Connected Package Professional ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและข้อมูลการจราจรอัปเดตล่าสุดเมื่ออยู่บนท้องถนน.