เดินทางไปล่าฝันคุมทีมฟุตซอลต่างแดนอีกคนแล้ว สำหรับ “โค้ชเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม กุนซือใหญ่ “ม้าศึกลูกแม่โดม” ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน โดยเจ้าตัว กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้ที่ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้น “บอสไต๋” ทักขศิษย์ จิตติวาณิชย์’ ที่เปิดให้โอกาสให้ตนได้ไปทำหน้าที่ของตัวเองในต่างประเทศอีกครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหม่ ที่จะได้ใช้ประสบการณ์ในฐานะโค้ชไปพัฒนาให้กับสโมสรฟาฟาเก บานัว (Fafage Banua) ซึ่งในช่วงหลังติดตามฟุตซอลลีกของอินโดนีเซีย มาเยอะพอสมควร ได้เห็นความพัฒนาของทั้งนักกีฬา รวมถึงฟุตซอลลีกอินโดนีเซีย ที่ก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง

“ขอบคุณสโมสรธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ที่ให้โอกาสสร้างทีมขึ้นมาร่วมระยะเวลาเกือบ 2 ปี ในตอนนี้ทีมกำลังอยู่ในช่วงที่ลงตัวมากจริงๆ และผมคิดว่าคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับช่วงต่อในตำแหน่งหัวหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนในตอนนี้ คือ ณัฐพล สุทธิโรจน์ เป็นคนที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หลายๆ อย่าง มารวมกันตั้งแต่สมัยค้าแข้งจนถึงในตอนที่เป็นโค้ชก็มีเขาอยู่เคียงข้างเกือบ 2 ปี ผมเชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้ดีและเติบโตขึ้นไปอีกในฐานะโค้ช”

โค้ชเอ๋ กล่าวทิ้งท้ายด้สยว่า นอกจากเป็นความท้าทายส่วนตัวที่จะต้องทำงานให้หนักขึ้น ส่วนตัวถือว่าเป็นการทำงาน เพื่อเป็นใบเบิกทางให้กับคนไทย ที่จะได้ไปอยู่ในต่างแดนทั้งในฐานะโค้ชและนักกีฬา

ทางด้าน “บอสไต๋” ทักขศิษฏ์ จิตติวาณิชย์ กล่าวว่า ในนามสโมสรธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ขออวยพรและขอบคุณ “โค้ชเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและมีความสุขกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน

สำหรับ “โค้ชเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม จะทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนให้ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน เป็นเกมสุดท้ายในการพบ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม จากนั้นจะมอบตำแหน่งต่อให้กับ “โค้ชซี” ณัฐพล สุทธิโรจน์ รับไม้ต่อไป

อนึ่ง พัทยา เปี่ยมคุ้ม กุนซือวัย 55 ปี คุมทัพม้าศึกลูกแม่โดม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565 ในปีแรกพาทีมจบอันดับ 5 ชนะ 17 เสมอ 3 แพ้ 6 คะแนนรวม 54 คะแนน และในปีนี้พาทีมอยู่ในอันดับ 4 ชนะ 9 เสมอ 3 แพ้ 3 คะแนนรวม 30 คะแนน เรียกว่าสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุมบังเหียนเลยทีเดียว.