เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และอดีตแกนนำ กลุ่ม นปช.ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ยอมรับว่าการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัวนั้น สร้างความไม่สบายใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อภาพปรากฏ ทำให้คนเสื้อแดงตั้งข้อสังเกตและมีความเชื่อว่า นายเศรษฐาเข้าไปรับใบสั่งแต่งตั้งรัฐมนตรีจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม

“จากการที่ยังไม่มีความชัดเจนในการแต่งตั้ง รมว.กลาโหม จึงทำให้คนเสื้อแดงมีความกังวลว่า ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหมจะเป็นทหารที่มีความเกี่ยวข้องในการสั่งฆ่าคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ถ้าเป็นจริง คนเสื้อแดงรับไม่ได้ จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของคนเสื้อแดงจริงๆ เพราะที่ผ่านมา การจับมือข้ามขั้วเราพยายามที่จะมองข้ามไปแล้ว แต่ถ้าเป็นจริง คนเสื้อแดงลุกฮือแน่ ส่วนกระทรวงอื่นๆ นั้นเป็นบุคคลที่มาทำหน้าที่ในแต่ละกระทรวง มีความเหมาะสมแล้ว”

ผศ.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าคนที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยังไม่ชัดเจนและลงตัว แต่กลุ่มคนเสื้อแดง ต้องการสื่อให้ไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้พิจารณาคนที่มีความเหมาะสม และไม่ทำร้ายจิตใจคนเสื้อแดง วันนี้คนเสื้อแดงต้องการสะท้อนความต้องการถึงผู้บริหาร ผู้มีอำนาจตัดสินใจตั้งรัฐบาล อย่าทำให้คนเสื้อแดงถูกทำลายมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เวลานี้คนเสื้อแดงยังพร้อมที่ยืนหยัดเคียงข้างพรรคเพื่อไทย แต่หากยังยืนยันพิจารณาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งฆ่าคนเสื้อแดง ก็จะเหมือนกับพรรคเพื่อไทยที่กำลังใช้น้ำกรดราดตัวเอง ฆ่าตัวเอง เพราะที่ผ่านมา มีหลายสถานการณ์ที่ทำให้คนเสื้อแดงมีความรู้สึกว่าด้อยค่า และเราเคยเสนอ เคยเรียกร้องไป ซึ่งพรรคเพื่อไทยดูแลบ้าง ไม่ดูแลบ้าง จนทำให้แกนนำหลายคน เลือกถอยห่างจากพรรคไปอย่างต่อเนื่อง