ตามที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ มาทำหน้าที่ประธานเทคนิคทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จากการสนับสนุนของ เนวิน ชิดชอบ ประธานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำให้มีคำถามถึงบทบาทของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการแต่งตั้งครั้งนี้ ที่เหมือนเป็นการตัดสินใจของประธานสโมสรไทยลีก

“บิ๊กหยิม”ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวว่า “จริงๆ ผู้ใหญ่คงจะหารือกับนายกสมาคมบอลแล้ว การที่ได้สโมสรใหญ่ๆ มาร่วมด้วยช่วยกันในการที่จะพัฒนาทีมชาติ ส่วนตัวคิดว่าเป็นประโยชน์ กีฬาฟุตบอลก็รู้อยู่แล้วว่าต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน ก็ทำให้ทีมชาติไทยพัฒนาไปได้”

นายยุทธนา กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าขณะนี้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนตั้งแต่ 17-19-23 ปี กำลังพัฒนาไปได้ดี ต่อไปคือการขึ้นไปสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ก็น่าจะมีผลงานที่ดีขึ้น จากการที่วางแผนการทำทีมแบบเป็นระบบนั้น ไม่ได้คาดหวังว่ารายการโน้นรายการนี้จะเป็นแชมป์ตลอดเวลา คิดว่าการที่ให้แต่ละเวที ให้นักเตะมีโอกาสได้พิสูจน์ฝีเท้าในนามทีมชาติ ก็เป็นการสะสมประสบการณ์ เพื่อขยับต่อไปในทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต

เมื่อถามว่า หากว่าเกิดมีการต้องเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ในส่วนของ สภากรรมการ ส.บอลฯ จะต้องมีส่วนในการร่วมตัดสินใจด้วยหรือไม่นั้น นายยุทธนา ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา มาโน โพลกิง ก็ยังต้องทำหน้าที่ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 ระหว่าง 7-10 ก.ย. แล้วก็จะต่อด้วยรายการต่างๆ ต่อไป มองว่านี่คือการทำงานเป็นทีมมากกว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ที่สำคัญคือ มาโน ก็ยังมีสัญญากับ ส.บอลฯ ด้วย

ทั้งนี้ “บิ๊กหยิม”ยุทธนา หยิมการุณ ได้เผยถึงเป้าหมายของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยในเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่ประเทศจีน ทีมชายหวังเข้ารอบสองให้ได้เป็นอย่างแรก แต่ก็ยอมรับว่าปัญหาคือการเรียกตัวผู้เล่นที่ไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ ส่วนทีมหญิงขอหวังมีเหรียญรางวัลกลับบ้าน

สำหรับทีมชาย ช้างศึก ร่วมกลุ่ม เกาหลีใต้, บาห์เรน, คูเวต โดย 2 ทีมดีสุด เข้ารอบแน่นอน ส่วนอันดับ 3 คัด 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม ส่วนฟุตบอลหญิง ชบาแก้ว ร่วมกลุ่ม ไต้หวัน, อินเดีย แชมป์กลุ่มเข้ารอบ ส่วนอันดับ 2 คัด 3 ทีมจาก 5 กลุ่ม