เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (24 ส.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 บก.สส.บช.น. จับกุม น.ส.ชิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.782/2559 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 59 ความผิดฐาน “ทำลายซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง, ปลอมตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 266, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 226 ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 23 ซอยประวิทย์และเพื่อน 4 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาขณะทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง มีตำแหน่งระดับสูง และก่อเหตุลักทรัพย์ในบริษัทผู้เสียหาย รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีการปลอมแปลงวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัยย่านบางเขน ทั้ง ป.ตรี ป.โท และโกหกว่าเรียนจบ เมลเบิร์น ออสเตรเลีย เพื่อนำไปสมัครงานในบริษัทใหญ่ ตำแหน่งสูงๆ เกี่ยวกับการเงิน ตรวจสอบยังพบว่ามีการใช้สมัครงานในตำแหน่งดีๆ หลายบริษัทที่เคยทำงาน และมีรายชื่อติดแบล็กลิสต์เซลเลอร์ หลอกขายสินค้าออนไลน์ แต่หลังก่อเหตุ จะเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ตนเอง 2-3 ครั้ง และจะใช้โปรไฟล์สร้างภาพในโลกโซเชียลให้ดูหรูหรา ไฮโซ ใช้ของแบรนด์เนม ไปเที่ยวที่ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่าผู้ต้องหาไม่เคยผ่าน ตม. สักครั้งเลยในชีวิต กระทั่งมาพบว่าผู้ต้องหามีการเลี่ยงการจับกุม ย้ายที่อยู่ไปมานานกว่า 6 ปี กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้พักอาศัยอยู่ที่ภายในซอยประวิทย์และเพื่อน 4 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ จึงเฝ้าติดตามจนพบตัวอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนแสดงตัวเข้าตรวจสอบพร้อมหมายจับ โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจึงจับกุมตัวไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร รับเขียนงานวิจัยขาย ส่วนเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดนั้น เอามาแบ่ง 3 คน คนแรกเสียชีวิต ตนเอง และพนักงานส่งเอกสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปักใจเชื่อแต่อย่างใด จึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ภัยในโลกออนไลน์ มิจฉาชีพสร้างโปรไฟล์หรู จบต่างประเทศ ใช้แบรนด์เนมเพื่อหลอกลวงประชาชนที่ชื่นชอบเล่นโซเชียล ระวังตกเป็นเหยื่อ สืบนครบาลจัดชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป