“คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักสู้ขวัญใจคนไทย วัย 34 ปี จากเมืองคอน ทำตามฝันคว้าสัญญามูลค่า 3.5 ล้านบาทไปลุยศึกใหญ่ ONE ได้สำเร็จ หลังบู๊แหลกเอาชนะน็อกยกสอง “ไอแซค อารายา” จากสเปน ในศึก ONE ลุมพินี 29 เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำสถิติชนะและคว้าโบนัสเป็นไฟต์ที่ 5 ติดต่อกัน เตรียมเจอความท้าทายใหม่เมื่อได้ก้าวไปสู้ในระดับโลกแบบเต็มตัว

วินาทีที่ “บังสรร” รับทราบข่าวดีบนเวทีว่าได้รับสัญญาไปลุยศึก วัน แชมเปียนชิพ เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าโอกาสทองจะมาถึงแบบนี้ แม้ว่าลึก ๆ แล้วนี่คือความฝันที่เฝ้ารออยากได้สัมผัสมานานก็ตาม

“ก่อนขึ้นชกในไฟต์นี้ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าถ้าชนะจะได้มีโอกาสเซ็นสัญญาไปชกศึก วัน แชมเปียนชิพ รู้สึกดีใจมากครับ ผมเฝ้ารอสิ่งนี้มานานหลายปีมากตั้งแต่สมัยที่ยังชกมวย 5 ยกครับ ตอนทราบข่าวนี้บนเวทีมันแทบพูดอะไรไม่ออก มันคือความฝันที่เฝ้ามองมาตลอดและวันนี้ได้กลายเป็นความจริงสักทีครับ”

ในฐานะที่เป็นดาวเด่นของศึก ONE ลุมพินี ที่ทุกคนต่างยอมรับแบบสุดหัวใจ “เสกสรร” ได้ให้ข้อคิดไปถึงบรรดาเพื่อนร่วมอาชีพที่อยากประสบความสำเร็จ ให้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ จากนั้นจะเจอความสำเร็จเฝ้ารออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

“นักมวยคนไหนอยากได้โบนัสและประสบความสำเร็จในศึก ONE ลุมพินี ขอแค่พอก้าวขึ้นไปบนเวทีให้ทุ่มเทใส่ทุกอย่างลงไปเต็มที่ ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ชกให้สนุกดุเดือดเร้าใจ ผมรับรองว่าถ้าใครทำตามแบบนี้มีโอกาสได้โบนัสมาครองแน่นอน ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำได้สำเร็จครับ”

กำลังใจสุดสำคัญที่ทำให้ “เสกสรร” เดินลุยฝ่าทุกอุปสรรคคงหนีไม่พ้นครอบครัว แม้ต้องฝึกซ้อมเพียงลำพังอยู่ที่บ้านไม่ใช่ปัญหา เพราะเมื่อมองหันหลังกลับไปยังคงมีทั้งภรรยาและลูกทั้งสองคนเป็นแรงผลักดัน คอยเตือนใจเสมอว่าที่ยอมเจ็บในสังเวียนทุกวันนี้ทำไปเพื่อใคร

“เวลาซ้อมมวยอยู่ที่บ้าน บางครั้งภรรยาก็เข้ามาช่วยด้วย มีทั้งตีหน้าท้องให้และจับกระสอบให้ ที่สำคัญคือทำกับข้าวบำรุงผมดีตลอด ต้องขอบคุณเขามากครับที่ดูแลอย่างดี ซึ่งเวลาซ้อมผมก็ซ้อมแบบจริงจังเต็มที่ครับ ส่วนเวลานอกเหนือจากนั้นผมก็อยู่เล่นกับลูกทั้งสองคน ดูแลพวกเขาอย่างเต็มที่ครับ”

สำหรับศึก ONE ลุมพินี 30 วันศุกร์ที่ 25 ส.ค.นี้ พบกับคู่เอก “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” กลับมาเรียกความเชื่อมั่นวัดพลังกับ “ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” ขณะที่คู่เอกภาคอินเตอร์ “ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย” ปะทะ “ซิลวิอู วิเตซ”