“มาดามอ้อ” นฬาพร ไชยนิน รองประธานสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร เอฟชี ฝ่ายหารายได้สิทธิประโยชน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ เมื่อ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ถึงข่าวความเคลื่อนไหวที่ เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ พระราชนัดดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนโรดม สีหนุ ซึ่งพำนักอยู่ในกรุงปารีสและกรุงพนมเปญ ทรงคลั่งไคล้และเป็นแฟนกีฬาฟุตบอล ซื้อทีมฟุตบอลในประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยพัฒนาฟุตบอลของกัมพูชา ตลอดจนทีมในโปรตุเกส และกำลังยื่นชื้อสโมสรแซงต์ เอเตียน ทีมดังลีกเอิงฝรั่งเศส รวมทั้งสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร เอฟชี ทีมในไทยลีกของไทยด้วยนั้น
เรื่องนี้ “มาดามอ้อ” เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวได้รู้จักกับ Royal Family กัมพูชา และเจ้าชายนโรดม รวิจักร์, เจ้าชาย Norodom Amarithivong มาร่วม 10 กว่าปีแล้ว จากเรื่องฟุตบอล ล่าสุดได้เสด็จมาเมืองไทย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะสนใจเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร เอฟชี และเสด็จกลับฝรั่งเศสเมื่อ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้าชมสโมสรโปลิศ เทโร ที่สนาม และชมการซ้อมเตรียมทีม รวมทั้งเจรจากับผู้ใหญ่ของสโมสรทั้งหมดบ้างแล้ว โดยพร้อมที่จะเข้ามาซื้อทีม หรือเป็นหุ้นส่วน ร่วมทุนของสโมสร ซึ่งพร้อมที่จะทุ่มเงินทำทีมระบบอาชีพเต็มรูปแบบมาตรฐานสากล แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาในเรื่องรายละเอียดของสัญญาอยู่ โดยต้องการให้พระโอรส ลงเล่นให้โปลิศ เทโร ในไทยลีกด้วย และลงซ้อมทดสอบฝีเท้ากับทีมแล้ว อยู่ในระดับฝีเท้าที่เป็นนักเตะอาชีพได้ เพราะเจ้าชายเล่นฟุตบอลอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสอยู่ และเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ส่วนจะปิดดีลได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหาร และท่านประธานสโมสร เห็นสมควรอย่างไร
สำหรับการยื่นชื้อสโมสรแซงต์ เอเตียน ทีมดังลีกเอิงฝรั่งเศส นั้น “มาดามอ้อ” เผยว่า เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ ทรงให้รายละเอียดความคืบหน้าว่า ตอนแรกตกลงกับทีมดังลีกฝรั่งเศส ได้แล้วที่ราคา 100 ล้านยูโร ราว 3,920 ล้านบาท แต่ภายหลังปิดดีลไม่ได้ เพราะ แซงต์ เอเตียน เรียกราคาเพิ่ม และมีเงื่อนไขการเข้าเทคโอเวอร์เพิ่มจากเดิม ทำให้ต้องเจรจากันรอบใหม่
นอกจากนั้น “มาดามอ้อ” กล่าวต่อว่า เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ ทรงแจ้งว่า จะกลับมาตกลงและเจรจากับโปลิศ เทโร อีกครั้งที่เมืองไทยในเร็วๆ นี้ โดยตอนนี้มีทีมระดับท็อป 5 ในไทยลีก 3-4 ทีมได้ติดต่อมายัง “มาดามอ้อ” ด้วยว่า อยากให้ เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ เข้าไปชมสโมสรด้วย เพราะสนใจอยากให้เข้ามาสนับสนุนหรือซื้อทีมเช่นกัน แต่ “มาดามอ้อ” แจ้งว่า คงต้องทำตามมารยาททางธุรกิจฟุตบอล ให้ผลการเจรจากับสโมสรฟุตบอลโปลิศ เทโร เอฟชี ซึ่งเป็นสโมสรแรกที่ติดต่อ ลงเอยอย่างไรเสียก่อน จึงจะเปิดเจรจากับสโมสรอื่นได้