ผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ ได้รับการเปิดเผยจาก “น้องสายฝน” นางสาวพิศมัย เจริญศิริ วัย 35 ปี ภรรยาของ บุญทัน ชฎารัมย์ นักกีฬายกน้ำหนักคนพิการทีมชาติไทย วัย 48 ปี เจ้าของเหรียญเงินและเหรียญทองแดง รุ่นมากกว่า 97 กก.ชาย ในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 “โซโลเกมส์ 2022” ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2022 ว่า ขณะนี้สามีสุดที่รักที่เปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว ได้ล้มป่วยด้วยโรคฉี่หนู อาการโคม่า นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์ โอกาสรอดชีวิตแทบจะเป็นศูนย์

“น้องสายฝน” เล่าทั้งน้ำตาต่อว่า จอมพลังคุณพ่อลูกสาม มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่มาตรวจเจอเมื่อวันที่ 30 ก.ค. หลังจากนั้นก็เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ โดยใช้สิทธิบัตรทอง ซึ่งอาการเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายก็มาทรุดหนักลงมาเรื่อยๆ จนต้องส่งตัวมารักษาที่ต่อโรงพยาบาลบุรีรัมย์

“ตอนนี้หนูก็ใช้สิทธิบัตรทองรักษาอยู่ แต่ปัญหาคือถ้าจะมีโอกาสรอด ก็ต้องเจาะคอ ซึ่งการเจาะคอก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเครื่องตัวนี้ คุณหมอบอกว่าเราต้องซื้อเอง เครื่องราคาประมาณ 1 แสนบาท หนูบอกได้เลยว่าหนูไม่มีปัญญาหาเงินขนาดนั้นมาได้แน่ๆ เพราะทุกวันนี้หนูก็ต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพี่บุญทันและลูกน้อยอีก 3 คน ส่วนเงินรางวัลอัดฉีด 1.5 แสนบาท ที่พี่บุญทันได้มานั้น เราก็เอาไปสร้างบ้าน แม้จะยังไม่เสร็จ แต่ก็พออยู่กันได้ ตอนนี้หนูเองไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตแล้วค่ะ”

“น้องสายฝน” เล่าทั้งน้ำตาต่อว่า โอกาสรอดของสามีตอนนี้แทบจะไม่มีเลย ถ้าไม่มีได้เจาะคอและใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี หนูไม่มีเงิน ไม่ได้ทำประกันชีวิต ไม่ได้ทำฌาปนกิจอะไรไว้เลย สุดท้ายก็คงเอาที่พี่เขาจะสู้ไหว เขาจะไปเมื่อไหร่เท่านั้น เพราะเราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว หากพี่เขาเสีย หนูเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินที่ไหนไปทำศพ เพราะทางครอบครัวของเราฐานะยากจน เป็นนักกีฬาทีมชาติก็จริง แต่ไม่ได้มีเงินทองมากมาย

ภรรยาของจอมพลังพาราหนุ่ม กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้หนูเคยแจ้งโค้ชไปแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ เพราะไม่รู้จักใครเลย อยากจะวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ โปรดให้ความเมตตาช่วยเหลือครอบครัวเราด้วย เพราะตอนนี้พี่บุญทันโคม่าหนักจริงๆ จะไปตอนไหนก็ไม่รู้เลย.