เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วานนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวนครั้งที่ 2/2566 โดยมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์, พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ และ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค., พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. และ พล.ต.ท. อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร. พร้อมข้าราชการตำรวจสายงานสอบสวน และส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีประเด็นการปรับเพิ่มอัตราเงินเพิ่มพิเศษของพนักงานสอบสวน การปรับปรุงแก้ไขคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 ลง 1 ก.ค. 56 เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติที่ไม่จำเป็น และให้ครบถ้วนตามกฎหมายที่ออกมาใหม่ รวมทั้งประเด็นอื่นๆ เพื่อยกระดับการทำงาน คุณภาพชีวิต การเจริญเติบโตของพนักงานสอบสวนให้ดียิ่งขึ้น สร้างขวัญกำลังใจในการทำงานเพื่อประชาชน นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังร่วมให้ความเห็นประเด็นสำนวนการสอบสวนที่มีเอกสารไม่มาก สามารถทำโดยรูปแบบย่อ ง่าย มีความชัดเจน เช่น คดีลักทรัพย์ที่มีวงจรปิด คดียาเสพติดจำนวนเล็กน้อย ผู้ต้องหารับสารภาพ คดีไม่ปรากฏตัวผู้กระทำผิด เพื่อจะได้แบ่งเบาภาระ ลดงานแก่พนักงานสอบสวน และควรดูแลปรับเพิ่มค่าตอบแทน ผลักดันเงินประจำตำแหน่งและปรับอัตราเงินตอบแทนค่าสำนวนให้สูงขึ้น และประเด็นการอบรมเสร็จ จึงได้เงินประจำตำแหน่งซึ่งไม่สอดคล้องกับการทำงาน รวมทั้งระเบียบ กฎหมายต่างๆ ที่จะต้องมีการยกร่างให้เป็นปัจจุบัน ลดภาระงานสอบสวน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ได้ไปตรวจราชการ สอบถามพูดคุยปัญหากับพนักงานสอบสวน รวมทั้งหารือแนวทางการทำงานร่วมอัยการ พบปัญหาการทำงานของพนักงานสอบสวนในหลายๆ ประเด็น และจากที่มีข่าวออกมาว่า พนักงานสอบสวนลาออกไปหลายราย ก็รู้สึกไม่สบายใจ มีความเห็นใจ เข้าใจ รับรู้ รับทราบปัญหา และห่วงใยการทำงานของพนักงานสอบสวน จึงมีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางส่งเสริมการทำงานของพนักงานสอบสวนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านงานสอบสวน พล.ต.อ.เอก, พล.ต.อ.วุฒิชัย, พล.ต.อ.ชัชวาลย์, พล.ต.ท.อำนวย และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งการให้ศึกษาพิจารณาปรับปรุงค่าตอบแทนพนักงานสอบสวนให้เหมาะสม และให้พิจารณาปรับปรุงระเบียบเกี่ยวกับเงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน ซึ่งมีใบประกอบวิชาชีพสอบสวนอยู่แล้ว ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งเลย นับแต่วันเริ่มทำงาน ไม่ใช่รับเงินหลังจากผ่านการอบรม

สำหรับในส่วนของการบริหารกำลังพลในสถานีตำรวจ ให้หัวหน้าสถานีใช้งานผู้ช่วยพนักงานสอบสวนให้เกิดประโยชน์ มีการถ่ายทอด พัฒนาความรู้ และให้สำนักงานกำลังพล (สกพ.) จัดสอบบรรจุบุคคลเหล่านี้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเป็นชั้นสัญญาบัตรสายงานสอบสวนทุกปี ให้พิจารณาออกแนวทางการให้เจ้าพนักงานจราจร และเจ้าหน้าที่สายตรวจ เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สามารถแยกรถ เมื่อมีเหตุรถชนและทำให้การจราจรติดขัด ให้พิจารณาออกแนวทางกรณีการทำสำนวนคดีไม่ปรากฏว่าผู้ใดกระทำผิด ให้ฝ่ายสืบสวนเป็นผู้รับผิดชอบสำนวน ในชั้นนี้ให้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาของพนักงานสอบสวนระยะเร่งด่วน เช่น การให้ ผบช., ผบก. สามารถเกลี่ยกำลังของพนักงานสอบสวนในรับผิดชอบ ให้เหมาะสมกับจำนวนคดีในแต่ละพื้นที่ โดยให้ดูจากปริมาณงาน ระยะเวลาการเข้าเวร การพัก จะได้แก้ไขปัญหาคดีล้นมือของพนักงานสอบสวน

ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะต่อไป ให้คณะทำงานเตรียมร่างแนวทางการปฏิบัติ รูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสายงานสืบสวนสอบสวนให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เพื่อให้สามารถอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน มีการเจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างเหมาะสมในสายงานสืบสวนสอบสวน และให้เร่งรัดปรับปรุง แก้ไข ระเบียบคำสั่งเกี่ยวกับงานสืบสวนสอบสวน ให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบัน เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ และลดภาระงานของพนักงานสอบสวนที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบปัญหาของพนักงานสอบสวน และให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะถือเป็นต้นธารของกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องอำนวยความยุติธรรมให้พี่น้องประชาชน อยากจะแก้ไขปัญหาของพนักงานสอบสวนให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน จับต้องได้ ซึ่งจะทำให้การทำงานของพนักงานสอบสวนในอนาคตสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ มีความเจริญก้าวหน้าและได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์ของประชาชนสังคมต่อไป.