เมื่อวันที่ 11 ส.ค. พระครูรัตนสราภิบาล อายุ 86 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองหงษ์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้ขึ้นป้ายบนกระดานดำข้างศาลาการเปรียญภายในวัด ด้วยข้อความว่า “…มารสังคมมีทั้งผู้หญิง มีทั้งผู้ชาย มาหลอกลวง ต้มตุ๋นพระตามวัดมีมาก ต่อไปต้องพึ่งโทรฯ หาตำรวจทันที โทร. 191…” รวมทั้งข้อความระบุ ชื่อ อดีตตำรวจรายหนึ่งในโรงพัก จ.บุรีรัมย์ ว่า “…นัด 18 ส.ค. 66 ส่งคืนแน่จริงไหม…”

ภายหลัง เจ้าอาวาสวัดหนองหงษ์ เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2566 “ผู้กองเอ” นามสมมุติ อดีตตำรวจยศ “ร.ต.อ” อายุ 63 ปี ท้องที่โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้มาขออาสาช่วยขับรถรับ-ส่งให้ทางวัด ทำให้รู้สึกดีและเกิดความไว้วางใจ ว่าโยมผู้กองเป็นคนเสียสละเพื่อสังคม จนกระทั่งวันที่ 30 เม.ย. 66 ทาง “ผู้กองเอ” มาบอกว่า ลูกสาวถูกบริษัทประกันโกง ไม่ยอมให้เงินเบี้ยประกันตามสัญญา 7 ล้านบาท จำเป็นต้องจ้างทนายไปดำเนินเรื่อง เพื่อจะได้เงินประกันดังกล่าว จึงต้องการยืมเงินของหลวงพ่อ 3 แสนบาท ไปให้ทนายไปก่อน จากนั้นวันที่ 3 และ 5 และ 6 พ.ค. 66 ก็มาอ้างว่าเงินยังไม่พอ ต้องยืมเงินอีกเรื่อย ๆ กระทั่งยืมไปทั้งหมด 1.7 ล้านบาท จากนั้นไม่นาน “โยมผู้กอง” ก็หายตัวไป

พระครูรัตนสราภิบาล กล่าวว่า เงินที่ให้ยืมเป็นเงินส่วนตัว จากการขายที่ดินมรดกของแม่อาตมาได้ 2 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2555 มีการฝากบัญชีเอาไว้ชัดเจน เนื่องจากแม่และน้องชายเสียชีวิตไปทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ได้แต่ท้อใจกับสังคมปัจจุบัน แม้จะไปแจ้งความกับทาง สภ.หนองหงส์ แต่ก็ทำได้เพียงมีหมายเรียกให้มาเจรจา นัดจ่ายงวดแรก 2.5 แสนบาท วันที่ 7 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าโยมผู้กองหายตัวไปอีกไป ทำให้รู้สึกเหนื่อยใจ จึงเขียนระบายความในใจใส่กระดานดำ เตือนตัวเองเอาไว้ดังกล่าว

เจ้าอาวาสวัดหนองหงษ์ กล่าวด้วยว่า จากที่สอบถามชาวบ้านทั่วไปทราบว่า อดีตตำรวจนายนี้ ใช้วิธีเดียวกันกับตนเอง ไปหลอกเอาเงินชาวบ้านในเขต อ.หนองหงส์ รวมกันอีกกว่า 1 ล้านบาท เท่ากับหลอกเงินคนทั่วไปรวมถึงพระไปรวมกว่า 3 ล้านบาท สาเหตุที่ต้องการเงินจำนวนมาก ก็เพราะต้องการเอาไปเปย์ให้กับหญิงสาวรายหนึ่งนั่นเอง.