พอลลีน งามพริ้ง อดีตแกนนำกองเชียร์ฟุตบอลไทย ยืนยันความตั้งใจเอาจริง ลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่ได้เพ้อเจ้อแน่นอน
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมคนปัจจุบัน จะหมดวาระสมัย 2 ในเดือน ก.พ. ปีหน้า เจ้าตัวยังไม่ชัดเจนว่าจะลงต่อหรือไม่ แต่ที่ประกาศจะลงชิงเก้าอี้ก่อนหน้านี้คือ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฯ และ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าไทย ส่วน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม และ ประธานการท่าเรือ เอฟซี ยังไม่ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
ล่าสุด “พอลลีน งามพริ้ง” หรือในชื่อเดิม “พินิจ งามพริ้ง” ที่ในอดีตเคยเป็นผู้นำเชียร์บอลไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า “ทนมานานกับพวกที่ปู้ยี่ปู้ยำกับฟุตบอลไทย มาดามแป้ง จะลงหรือไม่ลงก็อีกเรื่องนึง เหลือเวลา อีก 10 เดือน ขณะนี้ ‘มาดามป้อ’ ศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ สมัยหน้า” นอกจากนั้นยังโพสต์ นโยบายภายใต้แนวความคิด Football Transformation
อ่านข่าว : มาอีกราย! ‘มาดามป้อ’ ชิงนายกบอลไทย ประกาศนโยบาย 7 ข้อ
“กีฬาเดลินิวส์” สอบถาม “พอลลีน งามพริ้ง” เพิ่มเติมถึงการจะลงชิงนายกบอลไทย โดย อดีตแกนนำเชียร์บอลไทย กล่าวยืนยันว่า ตอนนี้ความตั้งใจมุ่งไปที่การชิงนายกจริง ทีมงานศึกษารายละเอียด กฎหมาย ข้อบังคับ ฟังความคิดเห็น พัฒนาแผนงาน ความเห็นคนวงการฟุตบอลรับมาหมดแล้ว หลังเปิดความตั้งใจไปก็มีฟีดแบ็กกลับมา หาคนมาช่วยดูเป็นที่ปรึกษาแต่ละด้าน รวม 6 คน คุยและทำงานข้างหลังเกือบเดือนแล้ว ตนไม่อยู่วงการ 7-8 ปี แต่ตามเชียร์บอลไทยตามวาระ
“อยู่ในขั้นตอนพิจารณา แต่ไม่ลังเล ตอนนี้ทุกอย่างมุ่งไปสู่จุดที่จะลงสมัคร คราวนี้อาจริง หนก่อนในฐานะ พินิจ งามพริ้ง เมื่อปี 2556 ที่อยู่คนละฝั่งกับ คุณวรวีร์ มะกูดี ตอนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ก็ออกจากวงการไป ช่วงดังกล่าว พล.ต.อ.สมยศ ก็เข้ามา”
พอลลีน กล่าวต่อไปว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาใช้วิธีล็อบบี้ หรือเป็นขั้ว คิดว่ามาถึงจุดที่วิธีเดิมใช้ไม่ได้แล้ว ไม่เกิดประโยชน์ ระบบบริหารงานผลประโยชน์ทับซ้อนมีอยู่ ซึ่งไม่ได้หมายถึงมีทุจริต แต่มีเล่นพรรคเล่นพวกกันอยู่ เลยไม่คิดถึงประโยชน์สังคมฟุตบอลโดยรวม ตนเองนั้นทำงานบริหารมา และเคยเป็นที่ปรึกษาสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก่อนเปลี่ยนเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมทั้งมีประสบการณ์ความหลากหลายทางเพศ
“ฟุตบอลไม่ใช่กีฬาของผู้ชายที่จะอยู่แคบๆ โลกของพอลลีนกว้างกว่าเดิมเยอะ สามารถขยาย ตลาดได้ ขยายได้หมด เพศ ภูมิภาค ศาสนา ฟุตบอลต้องไปขายเพื่อนบ้าน”
พอลลีน งามพริ้ง กล่าวด้วยว่า ตนเองไม่มีขั้ว แต่พอมีพรรคพวก เพื่อนฝูง คุณงามความดีที่ทำมาไม่หวังผลตอบแทนถ้าสิ่งนั้นคือบารมี ก็มีบารมี แต่ถ้าเอาวิธีเดิมต่อไปก็อย่ามาบ่นว่าบอลไทยตกต่ำ มั่นใจว่ามีคะแนน ตอนนี้ใครจะบอกว่าเลือกแน่ๆ คงไม่ใช่เวลา ไม่กังวล สู้เพื่อชนะ ทำโดยหลักการ
“ไม่เพ้อเจ้อนะ (การจะเป็นนายกสมาคมบอล) ชีวิตทุกวันนี้สุขสบายดีมาก ไม่จำเป็นต้องให้คนจดจำในฐานะนายกสมาคมฟุตบอล เคยมีคนเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาแล้ว (เลือกตั้ง 62-พรรคมหาชน) บอลอยู่ในทุกอณูอยู่แล้ว อยากชี้ให้เห็นว่า ถ้ามี 70 กว่าสโมสร ที่โหวตได้ เท่ากับว่าสโมสรหนึ่ง ดูแลความคาดหวังของคนล้านกว่าคน ต้องรับผิดชอบล้านกว่าคน ดังนั้นต้องตระหนักตรงนี้ ดูประโยชน์ระยะยาว”
เมื่อถามถึงการทำงานของ พล.ต.อ.สมยศ นายกคนปัจจุบัน พอลลีน กล่าวว่า มุมของตน ตำแหน่งนายกสมาคมบอลไทยกดดัน ยังไงก็โดนด่าอยู่แล้ว เพียงแต่การสื่อสารของ พล.ต.อ.สมยศ ไม่ได้สะท้อนว่าทำงานของส่วนร่วม การบ่นถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ได้ยึดโยงวงการฟุตบอลโดยรวม ส่วนเป็นรูปธรรมมีออฟฟิศใหม่สวยดี แต่ก็เงินสนับสนุนฟีฟ่าส่วนใหญ่ จริงๆ ทีมงานของ พล.ต.อ.สมยศ ก็เคยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน คนใหม่ๆ เข้ามา พอลลีน ก็ยินดีด้วย แต่ก็ต้องมีวาระ