เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักแสดงชายชื่อดัง พร้อมทีมงานฝ่ายกฎหมาย เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตั้งแต่เวลา 08.40 น. ที่ผ่านมา นานกว่า 5 ชม.
โดยนายรัฐภูมิ กล่าวว่า วันนี้ตนมาให้ปากคำในฐานะพยานพร้อมรวบรวมพยานเอกสารครบถ้วนมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ มั่นใจในความยุติธรรม และมั่นใจในพยานหลักฐานที่นำมาแสดง อาทิ สัญญาการซื้อขายจ้างงาน รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) สัญญาคู่เทียบ ความสำเร็จของชิ้นงานบริษัท รายนามทีมงานเขียนโค้ดดิ้งเกม เป็นต้น ทำให้ไม่มีความกังวลใดๆ พร้อมได้ชี้แจงในคลิปวิดีโอที่เคยโพสต์ไปก่อนแล้ว อีกทั้งตนก็ไม่ได้อยู่ในวงแชร์ Forex-3D แต่ที่มีปรากฏเส้นทางการเงินกว่า 6 ล้านบาทจาก บจก. มี ดี เพย์ จำกัด แบ่งเป็นการโอนเงินครั้งละ 2 ล้านบาท จำนวน 3 ครั้ง กับยอดเงิน 81,000 บาท กับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาคนสำคัญของคดีนี้ เนื่องจากในช่วงนั้นทีมงานของนายอภิรักษ์ได้ติดต่อว่าจ้างให้บริษัทของตนทำเกมโทรศัพท์มือถือให้ ซึ่งเงินดังกล่าวที่ปรากฏนั้นเป็นค่าจ้างการทำเกมที่ตนและบริษัทติดตามทวงถาม และติดตามทวงถามไปหลายครั้งเพราะขณะนั้นธุรกิจขาดทุน และที่สำคัญที่ตนและบริษัทไม่เอะใจ
นายรัฐภูมิ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนั้นนายอภิรักษ์ไม่มีคดีความอะไร แชร์ Forex-3D ยังไม่มา ดังนั้น ยอดเงินที่พนักงานสอบสวนพบทั้งสองยอด จึงเป็นการทยอยโอนเข้าบัญชีของบริษัททำเกมของตน 6,000,000 บาท และเป็นยอดเงินบางส่วนจากนายอภิรักษ์อีก 81,000 บาทที่โอนเข้าบัญชีตนเฉพาะ เพราะนายอภิรักษ์อ้างว่าสะดวกกว่าหากจะโอนให้เลย ทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอต้องออกหมายเรียกมาชี้แจง ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติเพราะผู้ที่ทำธุรกิจจะทราบดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอภิรักษ์ ยังค้างจ่ายเงินให้บริษัทตนอีกกว่า 6 ล้านบาท
นายรัฐภูมิ กล่าวอีกว่า สำหรับความสัมพันธ์กับนายอภิรักษ์ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่ทราบว่าเขาเป็นคนรวยมาก เพราะตอนไปทำสัญญาก็พบกัน ได้เห็นรถซุปเปอร์คาร์จำนวนมากทั้งที่อายุยังน้อย ตนจึงสงสัยสอบถามว่าทำอาชีพอะไร นายอภิรักษ์ก็ตอบว่าซื้อขายรถซุปเปอร์คาร์ โดยตนเคยถ่ายรูปร่วมกันกับเจ้าตัวขณะไปงานเลี้ยงธุรกิจซุปเปอร์คาร์ของนายอภิรักษ์ แต่ไปในฐานะลูกจ้างเท่านั้น
นอกจากนี้ เลขาฯ ส่วนตัวของนายอภิรักษ์ เคยใช้จิตวิทยา พูดจาทำนองว่านายอภิรักษ์มีร่างทรง จิตสัมผัส ชักชวนให้ลองศึกษาเรื่องแชร์ต่างๆ พร้อมแนะนำว่าผู้ที่ทำธุรกิจควรลอง แต่ตนปฏิเสธไปก่อน จึงยังไม่เคยมีการพูดคุยไปถึงขั้นตอนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนของแชร์ลูกโซ่ Forex-3D เพราะตนได้เลี่ยงไปก่อน ทำให้ตนไม่เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ลงทุนแชร์นั่นเอง
นายรัฐภูมิ กล่าวด้วยว่า จากที่มีข่าวเผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าค่อนข้างส่งผลกระทบกับอาชีพทางการเมืองแต่ผู้ใหญ่ให้ความเมตตา และหลังโพสต์คลิปวิดีโอชี้แจงไปเรื่องก็เงียบแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้กำหนดนัดหมายเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ตนก็ไม่ได้พูดคุยกับนายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือ ดีเจเพชรจ้า แต่ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คน
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบเส้นทางการเงินระหว่างผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับนายรัฐภูมิ จึงเชิญมาอธิบายในวันนี้ ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และจะนำไปสืบหาผู้เก็บเงิน หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเก็บเงินของ Forex-3D ต่อไป เบื้องต้นคดีนี้แบ่งเป็น 2 คดีหลักคือ คดีมูลฐานแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ภาค 4 และคดีฟอกเงินจากแชร์ Forex-3D ภาค 2 แต่ยังมีเส้นทางการเงินที่มากกว่านี้ จากนี้ดีเอสไอจะต้องรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยเน้นที่ความเชื่อมโยงทางเส้นทางการเงินเป็นหลัก เพื่อติดตามบุคคลที่พบรายชื่อซึ่งมีทั้งประชาชนและบุคคลในแวดวงบันเทิงที่เจ้าตัวหรือพยานหลักฐานมีการพาดพิงไปถึง เพื่อเรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นยังไม่พบว่านายรัฐภูมิ หรือเส้นทางการเงินใดของเจ้าตัวไปเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์
ขณะที่ ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ สายป้อง ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสอบปากคำนายรัฐภูมิวันนี้ พบว่าข้อมูลค่อนข้างสอดคล้องกับฐานข้อมูลที่พนักงานสอบสวนมีอยู่ อีกทั้งนายรัฐภูมิยังได้นำข้อมูลที่พนักงานสอบสวนยังรวบรวมไม่ถึงมามอบให้ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ต้องขอบคุณนายรัฐภูมิที่นำข้อมูลมาให้ในฐานะพยาน เพราะในการทำคดีฐานความผิดฟอกเงิน พนักงานสอบสวนต้องการสืบสวนไปให้ถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่เป็นผู้นำเงินของผู้เสียหายไป ซึ่งข้อมูลที่ได้จากนายรัฐภูมิวันนี้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ และข้อกล่าวอ้างของนายรัฐภูมิ ที่บอกว่าได้รับจ้างทำธุรกิจร่วมกับผู้ต้องหานั้น ก็มีการนำเอกสารต่างๆ ที่รองรับการว่าจ้างมาแสดงด้วย จากนี้จะต้องนำพยานหลักฐานเอกสารของนายรัฐภูมิไปตรวจสอบคู่ขนานกับหลักฐานอื่นๆที่มี เพื่อพิจารณาประกอบกันต่อไปว่ามีส่วนใดขัดแย้งหรือสอดคล้องกันอย่างไรบ้าง.