เมื่อวันที่ 8 ส.ค. โลกออนไลน์เกิดกระแสพูดถึงเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ได้แถลงข่าวจับมือจัดตั้งรัฐบาล
-เปิดเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาล ‘พท.-ภท.’ ตอกฝาโลง ‘ก้าวไกล’เป็นฝ่ายค้าน

โดย น.ต.ศิธา ระบุว่า “เรื่องของลุง 2 คน…”
คนที่1 #ลุงอยากกลับบ้าน คุณลุงเชี่ยวชาญ เรื่องการปั้นนายกฯ (ผมตามเชียร์ตลอด 4 คนแล้ว เข้าทุกแมตช์)
คนที่2 #ลุงอยากเป็นนายก แกช่ำชองเรื่องการเป่าคดี ให้เงียบหาย (หรือลดเวลาให้ได้ นาฬิกาแกเยอะ)

“ถ้าประชาชนปล่อยให้ 2 ลุง #ดีลลับ ต่างตอบแทนกันเอง ทั้งคู่จะ Happy Ending คน 1 ได้กลับบ้าน คน 1 อาจได้เป็นนายกฯ” ทั้งนายทุน, นักการเมือง, เผด็จการ และผู้หากินจากการสูบเงินงบประมาณภาครัฐ ต่างสมประโยชน์ Happy กันถ้วนหน้า
แต่ #ไทยพื้นบ้าน อย่างพวกเราๆ รวมถึง #ลูกหลานไทยในอนาคต มีแต่เสียประโยชน์

ถ้าเราทำตัวเป็น #ไทยเฉย ปล่อยให้เป็นแบบที่กล่าวข้างต้น พวกเราจะต้องอยู่ใต้อำนาจ หรือการบงการของลุงกันต่อไป อาจเป็น 4 ปี 8 ปี 16 ปี ไม่มีใครทราบ จนในที่สุดประเทศไทยจะถูกสูบสิ่งดีๆ จนไม่เหลืออะไรที่มีค่าเพียงพอ ที่จะส่งต่อให้ลูกหลานอีกต่อไป ทั้งๆ ที่รออีกไม่เกิน 10 เดือน สว. หมดวาระ พวกเราก็จะขุดรากถอนโคน ให้เผด็จการสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย กันได้อยู่แล้ว มันเหลืออีกแค่นิดเดียวจริงๆ

“เราต้องสนับสนุนให้ทั้ง 2ลุง ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลานกันทั้งคู่ หลีกไปให้ไกลการเมือง” ลุงคนแรก อดีตนายกฯ #ทักษิณ คุณลุงไม่ได้เป็นผู้ร้ายหนีคดี อย่างที่สลิ่มพยายามป้ายสี แต่คุณลุงคือ #ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่ไม่ยอมรับการพิจารณาคดี 2 มาตรฐาน อันเกิดจากผลพวงของการรัฐประหาร ผ่าน คตส. และองค์กรอิสระ ที่เผด็จการตั้งคนของตัวเองเข้าไปควบคุมบงการ จนเกิดเป็น #กระบวนการยุติความเป็นธรรม ในไทย การสนับสนุนลุงโทนี่ ให้ได้กลับบ้านเลี้ยงหลาน ต้องเปิดโอกาสให้คุณลุงได้รับความ #เป็นธรรม อย่างแท้จริง ด้วยการทำกระบวนการยุติธรรมให้โปร่งใส โดยการออกกฎหมายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางคดีจากการรัฐประหาร สามารถยื่นอุทธรณ์ให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยใช้กระบวนการ 3 ศาลตามมาตรฐานสากล “ลุงท่านนี้ ก็จะได้กลับบ้านมาสู้คดีอย่างเป็นธรรม โดยการอนุญาตให้ประกันตัว อยู่ที่การพิจารณาของศาล ตามกระบวนการปกติ”

ลุงคนที่ 2 ใช้ #ใจบันดาลแรง ขับเคลื่อน #ความอยาก เป็นนายกฯ ตามลูกยุจากลิ่วล้อและนายทุน ที่หวังประโยชน์จากการเกาะกินงบประมาณประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาขออะไรแกก็ให้หมด เมื่อโดนลูกยุมากเข้า จึงอยากจะสำเร็จดังหวัง ได้เป็นนายกฯ สักครั้งในบั้นปลายชีวิต “การสนับสนุนลุงคนนี้ ให้ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ทำได้ด้วยการจับมือกันของ 2 พรรคใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย #เพื่อไทย และ #ก้าวไกล แพ็กกันเป็น 292เสียง ++ “ผมจึงได้เสนอให้ทำ #AdvanceMOU 2 พรรคทำสัญญาจับมือกันให้แน่น จะเป็นเกราะเหล็กชนิดเดียว ที่จะป้องกันเผด็จการ ไม่ให้หวนกลับมาทำร้ายประเทศไทยได้อีก”

พวกเราต้องส่งสัญญาณถึงนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหาร #พรรคเพื่อไทย “เหลืออีกนิดเดียว ประชาชนที่รัก ประชาธิปไตย เรากำลังจะชนะอยู่แล้ว” #ความอยาก ของนักการเมือง ต้องไม่อยู่เหนือ #เจตนารมณ์ของประชาชน สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าวคือ ผมมีความเชื่อมั่นว่า อดีตนายกฯ ทักษิณจะกลับบ้านได้ ต้องกลับมาแบบที่ประชาชนสนับสนุนและชื่นชม แห่กันไปต้อนรับถึงสนามบิน ผมคนหนึ่งที่อยากไปต้อนรับท่านด้วยความยินดีถึงที่ ไม่ใช่กลับมาด้วยกระบวนการที่ผู้บริหาร #เพื่อไทย กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน จนคนแห่กันไปโห่ขับไล่ แบบที่เกิดขึ้น ณ ที่ทำการพรรคฯ ในทุกวันนี้

“รวมกันเถิด #เพื่อไทย+ก้าวไกล292เสียง ประชาชนไม่ได้เลือกท่านมา เพื่อให้ไปเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ สู้เพื่อประชาธิปไตย ตามเจตนารมณ์ของผู้ลงคะแนน แล้วประชาชนจะเป็น #ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ที่แท้จริงให้ #กลับบ้านเรารักรออยู่ ครับ”

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @น.ต.ศิธา ทิวารี – Sita Divari