“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะมีโปรแกรม 3 รายการติดกัน ได้แก่ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 17-27 ส.ค., ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 6-12 ก.ย. และเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.- 7 ต.ค.
สำหรับ ทั้ง 3 รายการของไทย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน ร่วมกลุ่ม A กับ กัมพูชา, บรูไน และ เมียนมา, คัด 23 ปี เอเชีย ร่วมกลุ่ม H กับ มาเลเซีย, บังกลาเทศ และ ฟิลิปปินส์ ขณะที่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ร่วมกลุ่ม “โสมขาว” เกาหลีใต้, คูเวต และบาห์เรน
“โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร กุนซือช้างศึกหนุ่ม กล่าวว่า ในทีมสตาฟฟ์โค้ชได้ดึง “โค้ชตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง มาร่วมงานด้วย เพราะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว สำหรับการลุยศึกแรก ศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่จะมีนักเตะโดนแบนหลายคน จากเหตุในรอบชิงชนะเลิศซีเกมส์นั้น จริงๆ ทีมก็มีกลุ่มรายชื่อนักเตะแล้ว ดังนั้นอาจจะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งจากชุดแรก ต้องยอมรับว่า ทั้ง 3 รายการ อาจต้องใช้นักเตะคนละชุดกัน โดยจากชิงแชมป์อาเซียน มาถึงคัดเอเชีย อาจจะเหลือแค่ 4-5 คน แล้วพอถึงเอเชี่ยนเกมส์ ก็เหวี่ยงกลับมาอีก ทั้งนี้ บอลชิงแชมป์อาเซียน เริ่มตอนบอลลีกไทยเตะ จึงจะไม่ได้ตัวหลัก แต่ก็จะได้จากทีมในไทยลีก 2 อย่างใน ชัยนาท ฮอร์นบิล ก็จะได้มา 2 คน ขณะที่ความคาดหวังในชิงแชมป์อาเซียน ก็แน่นอนอยู่แล้วส่าหวังถึงแชมป์ แต่ต้องดูหน้างาน
กุนซือช้างศึกหนุ่มกล่าวต่อไปว่า ศึกอาเซียนมีเวลาเก็บตัวเกือบ 10 วัน แต่เริ่มซ้อมจริงๆ วันที่ 10 ส.ค. ก่อนแข่งนัดแรกวันที่ 17 ส.ค. ก่อนหน้านั้นมีอุ่นเครื่องแบบปิดกับ บาห์เรน ที่เป็นทีมร่วมกลุ่มในเอเชี่ยนเกมส์ด้วย ก็จะได้ศึกษาข้อมูลกันก่อนเอเชี่ยนเกมส์ ส่วนคูเวต ที่ร่วมกลุ่มเช่นกันนั้น ก็พอมีข้อมูลจากการเจอกันใน โดฮาคัพ เมื่อปลายเดือน มี.ค. ซึ่ง ไทย แพ้หวุดหวิด 0-1