เมื่อวันที่ 10 ก.ย. พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ตรวจความพร้อมรถเคลื่อนที่ตรวจโควิด-19 เชิงรุกคันแรก เพื่อเป็นการนำร่องโครงการตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุกที่สน.พลับพลาไชย 1 และ สน.พลับพลาไชย 2 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 รุนแรงและมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้าง

พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กล่าวต่อว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ดำเนินการเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวข้างต้นโดยสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกสำหรับข้าราชการตำรวจและครอบครัวทั่วประเทศ และได้จัดสรรชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับทุกหน่วยครบตามจำนวนที่ร้องขอโดยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูงสุดจึงได้จัดทำโครงการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยรถเคลื่อนที่ขึ้นสำหรับใช้ในพื้นที่สถานีตำรวจบ้านพักข้าราชการตำรวจและแหล่งชุมชนในพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามวงรอบหรือตามที่มีอาการ อีกทั้งสามารถเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที และลดการเจ็บป่วยอาการหนักหรือเสียชีวิต และคาดว่าข้าราชการตำรวจและครอบครัวจะติดเชื้อลดลง

พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กล่าวต่อว่า รถตรวจเคลื่อนที่นี้จะเข้าไปตรวจถึงที่สถานีตำรวจในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงประชาชนที่อยู่ในชุมชนได้เข้าถึงการตรวจแบบทั่วถึงไม่ต้องเดินทางไกล นับว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่มารับบริการของสถานีตำรวจสำหรับรถตรวจเชื้อโควิค-19 เชิงรุกเคลื่อนที่มีทั้งหมด 10 คัน ซึ่งจะนำมาใช้ในการตรวจเชิงรุกตามสถานีตำรวจในกรุงเทพฯและปริมณฑล

รองโฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า สำหรับการนำร่องในวันนี้มีข้าราชการตำรวจครอบครัวตำรวจและประชาชนในพื้นที่มาร่วมตรวจ รวมจำนวน 120 คน โดยแบ่งเป็นตำรวจจำนวน 60 คน ครอบครัวตำรวจ จำนวน 20 คนประชาชน จำนวน 40 คน ทั้งนี้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวตำรวจที่มีผลเป็นบวกจะถูกจัดส่งไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลตำรวจ และรอผลเพื่อคัดแยกความรุนแรงของโรคโดยทางโรงพยาบาลตำรวจจะทำการเอกซเรย์ปอด จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยกลับบ้าน ขณะรอผลตรวจซึ่งจะออกภายใน 24 ชั่วโมง ในส่วนของประชาชนได้ติดต่อผู้นำชุมชน เพื่อประสานงานและนำเข้าสู่ระบบการรักษาตามสิทธิ์ของผู้ป่วยต่อไป

ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำการตรวจเชิงรุกทั่วประเทศโดยมียอดอยู่รวมทั้งหมด 77,378 ราย แยกเป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 66,415 ราย ครอบครัวตำรวจ จำนวน 8,987 ราย และประชาชนทั่วไปจำนวน1,976 ราย มีการตรวจพบเชื้อทั้งหมด 287 ราย แยกเป็นข้าราชการตำรวจจำนวน 98 ราย ครอบครัวตำรวจ 146 รายและประชาชนทั่วไป 43 ราย