นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงขบวนรถดีเซลรางที่ได้รับการบริจาคมาจากประเทศญี่ปุ่น 17 คันว่า ขบวนรถดังกล่าว รฟท. ได้รับส่งมอบมาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง รฟท. และบริษัท JR Hokkaido โดย รฟท. รับผิดชอบแค่ค่าขนย้าย ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพตู้โดยสารเบื้องต้น พบว่า ขบวนรถดีเซลรางอยู่ในสภาพดีสามารถนำมาใช้งานต่อได้ และแม้จะเป็นตู้โดยสารที่ถูกปลดระวางไปเมื่อปี 59 แต่ยังได้รับการดูแลบำรุงรักษาจากทางญี่ปุ่นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่ รฟท. ได้รับมอบตู้โดยสารแล้วจะเข้าไปตรวจสอบด้านความปลอดภัย และนำมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกครั้ง โดยคาดว่าจะนำตู้โดยสารดังกล่าวมาปรับปรุง เพื่อใช้ในส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศตามนโยบายรัฐบาล

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา รฟท. เคยได้รับมอบตู้โดยสารรถไฟจากประเทศญี่ปุ่น มาปรับปรุงและใช้ในกิจการรถไฟมาแล้ว เช่น การได้รับมอบตู้โดยสารจากบริษัท JR-West โดยนำมาปรับปรุงและดัดแปลงเป็นรถโดยสาร และขบวนรถพิเศษ เช่น รถ SRT Prestige รถประชุมปรับอากาศ ซึ่งสามารถนำมาใช้บริการสร้างรายได้ให้กับ รฟท. และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ รฟท. ยังอยู่ระหว่างนำรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ ที่ได้รับมอบจากบริษัท JR Hokkaido ก่อนหน้านี้ 10 คัน มาออกแบบและพัฒนาเป็นตู้รถไฟ เพื่อการท่องเที่ยวสำหรับให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

นายเอกรัช กล่าวอีกว่า การออกแบบและพัฒนาครั้งนี้ รฟท. ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) มีแนวคิดการออกแบบ และสีสันของแต่ละขบวนที่เป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะที่แตกต่างตามเส้นทางที่ให้บริการของรถไฟท่องเที่ยว ซึ่งผู้ใช้บริการนอกจากจะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทางแล้ว รถไฟที่ปรับปรุงในแต่ละเส้นทางจะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ตั้งแต่การออกแบบภายนอก ภายในขบวนรถ และการใช้วัสดุตกแต่ง ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ไม่จำเจในการเดินทาง อีกทั้งสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อน พร้อมการให้บริการอาหารในตู้โดยสารแต่ละขบวน

นายเอกรัช กล่าวด้วยว่า รฟท. คาดว่าจะปรับปรุงรถไฟ และสามารถนำมาให้บริการได้ช่วงปี 65 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ รฟท. ตลอดจนเป็นการเปิดประสบการณ์เดินทางใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้เกิดความประทับใจ สร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีของประเทศ และเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย.