เมื่อวันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม น.ส.ศุภลักษณ์ อายุ 24 ปี และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ตามหมายจับศาลเยาวชนเเละครอบครัว ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดย พ.ต.ท.วุฒิพันธ์ ผะอบทอง, พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น พร้อมกำลังสามารถจับกุมได้ที่ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้เสียหาย ได้รับสายโทรศัพท์ ทราบภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บอกว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย ถูกแอบอ้าง และการฟอกเงิน และให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์เพื่อแจ้งความ ผู้เสียหายทำการเพิ่มเพื่อนแล้วปรากฏผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ “สภ.เมืองเชียงราย” บอกให้ผู้เสียหายโอนเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปให้ตรวจสอบแล้วจะคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีของคนร้าย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 8013932754 ชื่อบัญชีของผู้ต้องหา จำนวน 4 ครั้ง จากนั้นคนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายโหลดแอป “ควบคุมโทรศัพท์ทางไกล” และให้ผู้เสียหายบอกเลขรหัสที่ปรากฏในแอป จากนั้นคนร้ายได้เข้าควบคุมเครื่องโทรศัพท์ของผู้เสียหาย และโอนเงินจากบัญชีเดิมของผู้เสียหายไปยังบัญชีเดิมของคนร้าย รวมการโอนเงินทั้งหมด 5 ครั้ง วันที่ 4 ส.ค. 65 เป็นเงินทั้งสิ้น 109,355 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้รับเงินคืนตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

จากการสอบถาม น.ส.ศุภลักษณ์ ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าบัญชีดังกล่าวที่ผู้เสียหายโอนเงินมาให้นั้น เป็นบัญชีของตนเองจริง ซึ่งบัญชีดังกล่าวตนเองได้เอาไปให้ น.ส.เอ ผู้ต้องหาที่ 2 ใช้ โดยที่ตนเองไม่รู้ว่า จะเอาไปใช้ทำอะไร และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงิน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด

จากการสอบถาม น.ส.เอ รับว่าบัญชีดังกล่าวที่ผู้เสียหายโอนเงินมาให้นั้น เป็นบัญชีของตนเองจริง ซึ่งบัญชีดังกล่าว ตนเองได้เอาไปให้เพื่อนใช้ โดยที่ตนเองไม่รู้ว่า จะเอาไปใช้ทำอะไร และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงเงิน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การทลายบัญชีม้า เป็นการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สำคัญ แม้ว่าคอลเซ็นเตอร์จะมีการตั้งออฟฟิศอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถ้าเราสามารถปราบปรามบัญชีม้าในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้สามารถตอบโต้มิจฉาชีพนี้ได้ เพื่อไม่ให้หลอกลวงคนไทยได้สะดวก หรือกระทำผิดโดยง่าย หากท่านมีเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.