รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า วันนี้ (10 ก.ย.64) กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ถนนเชื่อมต่อ (Spur Road) ช่วงระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) ถึงทางแยกต่างระดับหนองข้างคอกฯ ในรูปแบบการสัมมนาทางไกลผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อนำเสนอข้อมูลโครงการ และรูปแบบพัฒนาโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชนเช้าร่วม

ทล. ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ให้ดำเนินการศึกษารายละเอียดเบื้องต้น วิเคราะห์ และประเมินผลโครงการ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณ กม.1+250 จากทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ถนนเชื่อมต่อถึงจุดสิ้นสุดที่บริเวณ กม.2+750 ก่อนถึงทางแยกต่างระดับหนองข้างคอก ระยะทางก่อสร้างและปรับปรุงผิวจราจรประมาณ 1.50 กม. ความยาวสะพานยกระดับประมาณ 480 เมตร

ซึ่งจะออกแบบให้เป็นสะพานยกระดับตามแนวมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ขนาดช่องจราจร 8 ช่องจราจร (4 ช่องต่อทิศทาง) และจุดกลับรถบริเวณ กม.2+050 เพื่ออำนวยความสะดวกในการกลับรถที่ปลอดภัยแก่ประชาชน โดยพื้นที่ศึกษาศึกษาครอบคลุมทั้งหมด 3 ตำบล ได้แก่ ต.หนองข้างคอกฯ ต.ห้วยกะปิ และ ต.บ้านสวน จ.ชลบุรี เมื่อศึกษาแล้วเสร็จคาดว่าใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 2 ปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 350 ล้านบาท โดยใช้เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง

ปัจจุบัน ทล. มีการพัฒนามอเตอร์เวย์หมายเลข 7 มาโดยตลอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายเชื่อมโยงกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นมอเตอร์เวย์มาตรฐานสูงที่มีการควบคุมทางเข้า-ทางออก และใช้ความเร็วสูงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ส่งผลให้ถนนเชื่อมต่อ (Spur Road) ช่วงระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) ถึงทางแยกต่างระดับหนองข้างคอกฯ หรือเส้นทางเชื่อมต่อถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี (ทางหลวงหมายเลข 361) ที่เคยมีจุดกลับรถชั่วคราวในอดีตถูกยกเลิกไป

เพื่อความปลอดภัยในกรณีใช้ความเร็วสูง ส่งผลให้ผู้ใช้ทางที่ต้องการกลับรถจะต้องใช้จุดกลับรถที่ทางแยกต่างระดับหนองข้างคอก และจุดกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 3701 (แยกถนนข้าวหลาม) ซึ่งห่างจากจุดกลับรถชั่วคราวที่ถูกยกเลิกไปอีก 2-3 กม. ก่อให้เกิดความไม่สะดวกต่อประชาชนในการเดินทางเชื่อมต่อกัน และเกิดการขับขี่ย้อนศรอย่างต่อเนื่อง อาจนำมาสู่การเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียได้ เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่ของแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองหิน โรงโม่หิน ส่งผลให้มีปริมาณรถบรรทุกเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นจึงดำเนินโครงการดังกล่าว หลังจากประชุมครั้งนี้จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนนำมาพิจารณาประกอบการศึกษาของโครงการ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและประชาชนให้น้อยที่สุด โดยผู้สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดของโครงการ ได้ที่เว็บไซต์ http://www.doh-motorway.com/category/news/  หรือ  http://www.doh-motorway.com/public-participation-bang-phra/