นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารไทยใน 66 มีจำนวนร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นถึง 13.6% หรือราว 1 แสนกว่าร้าน โดยประเภทร้านอาหารเปิดใหม่ที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ ร้านอาหารเช้า (แซนด์วิช) ร้านอาหารจีน และร้านสุกี้ยากี้ ชาบู ตามลำดับ ขณะที่ประเภทร้านอาหารเปิดใหม่ ที่เติบโตชะลอลง ได้แก่ ฟู้ดทรัค ร้านข้าวต้มมื้อดึก และร้านพิซซ่า นอกจากนี้ จากข้อมูลของร้านอาหารที่ใช้ วงใน พีโอเอส ยังพบว่ามูลค่าการซื้อขายรวม (จีเอ็มวี) ของยอดขายประเภทนั่งรับประทานที่ร้าน กลับมามีอัตราการเติบโตสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

“แม้มีร้านอาหารเปิดใหม่ตลอดเวลา แต่จากสถิติพบว่ามีร้านอาหารถึง 50% ที่ต้องปิดตัวลงภายในปีแรก และ 65% ที่ปิดตัวลงภายใน 3 ปี บทบาทของ ไลน์แมน วงใน ในฐานะผู้นำโซลูชันสำหรับร้านอาหารแบบครบวงจรของไทย คือ ช่วยให้ร้านสามารถเพิ่มยอดขายและลดต้นทุน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักให้ร้านอยู่รอดและเติบโตในสภาวะตลาดแข่งขันสูง ด้วยเทคโนโลยี พีโอเอส หรือ พอยท์ ออฟ เซล ที่ เหมาะกับการใช้งานของร้านอาหารทุกประเภทในไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับออร์เดอร์หน้าร้าน และบริหารระบบหลังร้าน”

นายยอด กล่าวต่อว่า หลังเข้าซื้อกิจการ ฟู้ด สตอรี่ ทำให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาด พีโอเอส สำหรับร้านอาหาร มีร้านอาหารกว่า 55,000 ร้านทั่วประเทศ ที่เลือกใช้ วงใน พีโอเอส และ ฟู้ด สตอรี่ พีโอเอส คิดเป็นสัดส่วน 40% ของตลาดนี้ และที่ผ่านมาได้สร้างมูลค่าการซื้อขายรวม (จีเอ็มวี) กว่า 180,000 ล้านบาท และจัดการออร์เดอร์ร้านอาหารไปแล้วรวมกว่า 636 ล้านออร์เดอร์ ซึ่งช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษไปถึง 323 ตัน

สำหรับเทรนด์การกินของคนไทยที่น่าจับตาในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า เมนูมาแรงที่จำนวนค้นหาเติบโตสูงสุดบนแพลตฟอร์ม LINE MAN Wongnai ได้แก่ หมูกรอบ ไอศกรีม เค้ก สุกี้ และหม่าล่า รวมถึงเมนูที่มียอดขายดิลิเวอรี่เติบโตสูงสุดบน LINE MAN โดยเมนูอาหาร ได้แก่ ส้มตำปูปลาร้า กะเพราหมูกรอบ และไก่ย่าง ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ได้แก่ ชาเขียวนม ช็อกโกแลต และชาไทย

ด้านนายฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบจัดการร้านอาหาร ฟู้ด สตอรี่ พีโอเอส ของ ไลน์แมน วงใน กล่าวว่า ได้สำรวจข้อมูลจากร้านอาหาร 1,230 แห่ง ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 พบว่าปัญหาหนักใจที่สุด ได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนแรงงาน ต้นทุนแฝงที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงจำนวนร้านคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่จำนวนลูกค้าใหม่ และลูกค้าประจำลดลง จึงพัฒนาโซลูชันใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาของร้านอาหาร ทุกประเภทได้มากขึ้น

คือ โซลูชันจัดการร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีสาขา อาทิ ระบบสั่งอาหารผ่านการสแกน QR CODE ระบบรวมศูนย์จัดการข้อมูลจากหลายสาขา ระบบบริหารคลังวัตถุดิบ สามารถคำนวณสัดส่วนวัตถุดิบของแต่ละเมนู และตัดคลังวัตถุดิบอัตโนมัติ รวมถึงแจ้งสถานะสต๊อกเมื่อวัตถุดิบใกล้หมด ฯลฯ  และร้านอาหารขนาดกลางถึงเล็ก อาทิ แอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับเจ้าของร้าน ระบบการรับออร์เดอร์หน้าร้านผ่านโทรศัพท์มือถือของพนักงาน ฯลฯ